โปรตีนในปัสสาวะ: สัญญาณเตือนจากเบาหวาน ความดัน และการติดเชื้อ พร้อมวิธีป้องกัน
ปัสสาวะของคุณเคยเป็นฟองเหมือนฟองสบู่หรือรู้สึกขาบวมโดยไม่ทราบสาเหตุหรือไม่? ภาวะ โปรตีนในปัสสาวะ (proteinuria) อาจเป็นสัญญาณเตือนจากร่างกาย โดยเฉพาะหากคุณมี เบาหวาน, ความดันโลหิตสูง, หรือ การติดเชื้อ บทความนี้ผ่านการทบทวน (review) จากแหล่งทางการแพทย์ที่น่าเชื่อถือ และนำเสนอ (offer) คำแนะนำที่ชัดเจนเกี่ยวกับสาเหตุ อาการ การตรวจ การป้องกัน และการดูแล เพื่อปกป้องสุขภาพไตของคุณ อ่านต่อเพื่อรู้วิธีดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้!
โปรตีนในปัสสาวะคืออะไร?
โปรตีนในปัสสาวะ (proteinuria) คือภาวะที่มีโปรตีน โดยเฉพาะ อัลบูมิน ในปัสสาวะมากกว่าปกติ ไตมีหน่วยกรองที่เรียกว่า โกลเมอรูลัย (glomeruli) ซึ่งกรองของเสียออกจากเลือด แต่เก็บโปรตีนที่จำเป็นไว้ เช่น อัลบูมิน ซึ่งช่วยสร้างกล้ามเนื้อ, กระดูก, ผม, เล็บ และทำให้เลือดแข็งตัว หากโกลเมอรูลัยเสียหายจาก เบาหวาน, ความดันโลหิตสูง, หรือ การติดเชื้อ โปรตีนอาจรั่วออกมาในปัสสาวะ
ในคนปกติ โปรตีนในปัสสาวะมีน้อยมาก (น้อยกว่า150 มก./วัน) และมักตรวจไม่พบด้วยแถบตรวจทั่วไป การตรวจพบโปรตีน โดยเฉพาะอัลบูมิน อาจบ่งชี้ปัญหาไต เช่น โรคไตเรื้อรัง (CKD) หรือกลุ่มอาการเนฟโฟรติก หากไม่ตรวจแต่แรกก็อาจจะกลายเป็นโรคไตเสื่อม และในที่สุดกลายเป็นโรคไตวายเรื้อรัง ดังนั้นการตรวจปัสสาวะเพื่อหา Albumin ในผุ้ป่วยบางโรคเช่น โรคเบาหวาน ความดันดลหิตสูงจึงมีความจำเป็น
ชนิดของโปรตีนที่ขับออกมา |
ปริมาณ(มก/24ชม) |
โปรตีน Protein |
|
|
<150 |
|
>150 |
|
>3500 |
Albumin |
|
|
2-30 |
|
30-300 |
|
>300 |
โปรตีนในปัสสาวะหายเองได้หรือไม่
โปรตีนในปัสสาวะแบ่งออกเป็นสามชนิดได้แก่
- โปรตีนในปัสสาวะที่หายเองได้ Transient proteinuria มักจะพบในคนที่มีไข้ หรือออกกำลังกาย อยู่ในที่หนาว หรือมีความเครียดโปรตีนนี้หายได้เองเมื่อภาวะที่กระตุนดังกล่าวหายไปแล้ว ภาวะนี้จะไม่กลายเป็นไตวายปริมาณโปรตีนมักจะน้อยกว่า 1 กรัมต่อวัน
- โปรตีนในปัสสาวะเมื่ออยู่ในท่ายืน Orthostatic (postural) proteinuria โปรตีนมักจะน้อยกว่า 1 กรัมต่อวันจะตรวจพบเมื่ออยู่ในท่ายืน เมื่อนอนโปรตีนก็จะหายไป
- เมื่อตรวจปัสสาวะ 2-3 ครั้งยังพบโปรตีนทุกครั้งที่ตรวจเราเรียกว่า Persistent proteinuria ซึ่งจะบ่งว่ามีโรคที่ไต ปริมาณโปรตีนก็สามารถบอกตำแหน่งของโรคไตได้
เบาหวาน ความดัน และการติดเชื้อเกี่ยวข้องกับโปรตีนในปัสสาวะอย่างไร?
สามสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโปรตีนในปัสสาวะ ได้แก่:
- เบาหวาน:
- เบาหวาน (ทั้ง type 1 และ 2) ทำให้ไตเสียหาย (diabetic nephropathy) ส่งผลให้ตัวกรองไตปล่อยโปรตีนออกมา
- โรงพยาบาลมักนำเสนอ การตรวจ albumin-to-creatinine ratio (ACR) ปีละครั้งเพื่อจับสัญญาณตั้งแต่เนิ่นๆ [KDIGO 2024]
- การทบทวน (review) ผลการตรวจ ACR ช่วยระบุ microalbuminuria (ACR 30–300 มก./ก.) ซึ่งเป็นสัญญาณเริ่มต้นของโรคไต
- ความดันโลหิตสูง:
- ความดันโลหิตสูงทำลายตัวกรองไต (hypertensive kidney disease) ทำให้โปรตีนรั่วออกมา
- แพทย์จะทบทวน (review) ความดันโลหิตและแนะนำยา เช่น ACE inhibitors (lisinopril) หรือ ARBs (losartan) ซึ่งโรงพยาบาลนำเสนอ เพื่อลด proteinuria
- การติดเชื้อ:
- การติดเชื้อ เช่น ทางเดินปัสสาวะ (UTI) หรือการติดเชื้อทั่วไป อาจทำให้เกิด transient proteinuria ซึ่งหายได้เมื่อรักษาการติดเชื้อ
- แพทย์จะทบทวน (review) ผลการตรวจปัสสาวะด้วยกล้องจุลทรรศน์เพื่อหาแบคทีเรียหรือเม็ดเลือดขาว และนำเสนอ (offer) การรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ
ปัจจัยที่มีผลต่อโปรตีนในปัสสาวะ
หากตรวจพบโปรตีนในปัสสาวะก็ไม่ได้หมายความถึงจะเป็นโรคไตเพราะมีหลายภาวะที่ทำให้ตรวจปัสสาวะแล้วพบโปรตีน ปัจจัยดังกล่าวได้แก่
ดังนั้นเมื่อตรวจพบโปรตีนในปัสสาวะแล้วจะต้องหาปัจจัยต่างๆเหล่านี้และแก้ไขและตรวจปัสสาวะซ้ำ
สาเหตุอื่น: รวมถึงโรคไตเรื้อรัง, กลุ่มอาการเนฟโฟรติก, โรคแพ้ภูมิตัวเอง (เช่น SLE), หรือปัจจัยชั่วคราว เช่น การออกกำลังกายหนัก, ไข้, หรือการตั้งครรภ์
อาการของโปรตีนในปัสสาวะ
ในระยะแรก โปรตีนในปัสสาวะมักไม่มีอาการชัดเจน โดยเฉพาะในผู้ป่วยเบาหวานหรือความดันโลหิตสูง แต่เมื่อโปรตีนรั่วมาก อาจพบ:
- ปัสสาวะเป็นฟอง: คล้ายฟองสบู่ที่ไม่หายง่าย เกิดจากโปรตีนในปัสสาวะ
- อาการบวม (edema): โดยเฉพาะที่ขา, เท้า, หรือใบหน้า เนื่องจากสูญเสียอัลบูมิน
- อ่อนเพลีย: จากการขาดโปรตีนที่จำเป็น
- ปัสสาวะน้อยลงหรือขุ่น: หากไตทำงานผิดปกติ
- ความดันโลหิตสูง: โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มี proteinuria จากความดันโลหิตสูง [web:1, web:3]
หมายเหตุ: ปัสสาวะเป็นฟองอาจเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น ปัสสาวะเร็วเกินไป ควรให้แพทย์ทบทวน (review) ผลการตรวจปัสสาวะเพื่อยืนยัน
กลุ่มเสี่ยงต่อโปรตีนในปัสสาวะ
ผู้ที่มีภาวะต่อไปนี้ควรให้แพทย์ทบทวน (review) และนำเสนอ (offer) การตรวจปัสสาวะเพื่อหาโปรตีน:
- ผู้ป่วยเบาหวาน (type 1 และ 2)
- ผู้ป่วยความดันโลหิตสูง
- ผู้ที่มีการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะบ่อย
- ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคไต
- ผู้ป่วยโรคแพ้ภูมิตัวเอง เช่น SLE
- หญิงตั้งครรภ์ที่มีความเสี่ยงภาวะครรภ์เป็นพิษ
- ผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน [ KDIGO 2024]
การตรวจโปรตีนในปัสสาวะ
แพทย์จะทบทวน (review) ผลการตรวจต่อไปนี้เพื่อวินิจฉัย proteinuria และระบุสาเหตุ เช่น เบาหวาน, ความดัน, หรือการติดเชื้อ:
- แถบตรวจปัสสาวะ (Dipstick Test):
- จุ่มแถบในปัสสาวะและเทียบสี ตรวจพบโปรตีนเมื่อมี มากกว่า300–500 มก./ลิตร
- แปลผล:
- Trace: ~30 มก./ดล.
- 1+: ~100 มก./ดล.
- 2+: ~300 มก./ดล.
- 3+: ~1,000 มก./ดล.
- 4+: มากกว่า2,000 มก./ดล.
- ข้อจำกัด: ไม่วัดปริมาณโปรตีนที่แน่นอน
- การเก็บปัสสาวะ 24 ชั่วโมง:
- วัดปริมาณโปรตีนรวมและครีเอตินีนทั้งวัน
- ปกติ: น้อยกว่า150 มก./วัน
- Nephrotic range: มากกว่า3,500 มก./วัน
- อัตราส่วนอัลบูมินต่อครีเอตินีน (ACR):
- เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวานหรือความดันโลหิตสูง
- ปกติ: น้อยกว่า30 มก./ก. creatinine
- Microalbuminuria: 30–300 มก./ก.
- Macroalbuminuria: มากกว่า300 มก./ก.
- โรงพยาบาลมักนำเสนอ (offer) การตรวจ ACR ปีละครั้งสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน [KDIGO 2024]
- การตรวจ ACR เหมาะสำหรับตรวจหาโปรตีนในปัสสาวะไม่มากเช่นบวก1 หรือตรวจหาโปรตีนในปัสสาวะผู้ป่วยโรคเบาหวาน
- อัตราส่วนโปรตีนต่อครีเอตินีน (PCR):
- วัดจากปัสสาวะตัวอย่างเดียว ปกติ น้อยกว่า0.2 มก./มก.
- ใช้ติดตามผู้ป่วยที่มี proteinuria รุนแรง
- หากมีโปรตีนในปัสสาวะมากควรใช้ PCR ติดตามการรักษา
- อัตราส่วนโปรตีนในปัสสาวะต่อครีเอตินีน (UPCR):
- สะดวก ไม่ต้องเก็บปัสสาวะ 24 ชั่วโมง
- ตาราง UPCR:
- การตรวจเพิ่มเติม:
- ตรวจปัสสาวะด้วยกล้องจุลทรรศน์: หาเม็ดเลือดแดง (glomerulonephritis) หรือแบคทีเรีย (การติดเชื้อ)
- ตรวจเลือด: ครีเอตินีน, eGFR, น้ำตาล (สำหรับเบาหวาน), หรือ anti-dsDNA (สำหรับ SLE)
- อัลตราซาวนด์ไต: ตรวจโครงสร้างไต
- ตัดชิ้นเนื้อไต: ในกรณีสงสัยโรคไตรุนแรง [ KDIGO 2024]
ระดับ |
UPCR (mg/g) |
UPCR (mg/mmol) |
เทียบ UACR (mg/g) |
ปกติหรือสูงเล็กน้อย |
น้อยกว่า150 |
น้อยกว่า15 |
น้อยกว่า30 |
สูงปานกลาง |
150–500 |
15–50 |
30–300 |
สูงมาก |
มากกว่า500 |
มากกว่า50 |
มากกว่า300 |
การเตรียมตัว: แจ้งแพทย์เกี่ยวกับยาที่ใช้ งดออกกำลังกายหนักก่อนตรวจ และแพทย์จะทบทวน (review) ประวัติเพื่อหาสาเหตุ เช่น เบาหวานหรือการติดเชื้อ
เมื่อแพทย์พบโปรตีนในปัสสาวะ จะทำอะไรต่อ?
หากแพทย์ทบทวน (review) ผลการตรวจปัสสาวะ 2–3 ครั้งและยืนยัน persistent proteinuria (พบโปรตีนทุกครั้ง) จะดำเนินการดังนี้:
- ซักประวัติ: การใช้ยา (เช่น NSAIDs), ประวัติครอบครัว, โรคในอดีต (เบาหวาน, ความดัน), หรืออาการการติดเชื้อ
- ตรวจร่างกาย: วัดความดันโลหิต, ตรวจอาการบวม
- ตรวจเพิ่มเติม:
- เจาะเลือด: ตรวจ eGFR, creatinine, น้ำตาล (เบาหวาน), หรือไขมัน
- ตรวจปัสสาวะด้วยกล้องจุลทรรศน์: หาแบคทีเรียในกรณีสงสัยการติดเชื้อ
- วัด PCR/ACR เพื่อประเมินความรุนแรง
- อัลตราซาวนด์ไตหรือตัดชิ้นเนื้อไตในกรณีรุนแรง
- เกณฑ์ส่งต่อแพทย์โรคไต:
- PCR มากกว่า100 มก./มมล.: บ่งชี้ nephrotic range
- PCR มากกว่า45 มก./มมล. และมีเม็ดเลือดแดงในปัสสาวะ
- โปรตีน มากกว่า3.5 ก./วัน: กลุ่มอาการเนฟโฟรติก [KDIGO 2024]
การป้องกันโปรตีนในปัสสาวะจากเบาหวาน ความดัน และการติดเชื้อ
เรานำเสนอ (offer) คำแนะนำที่ผ่านการทบทวน (review) จากแนวทาง KDIGO 2024 เพื่อป้องกันโปรตีนในปัสสาวะ โดยเฉพาะในผู้ที่มีเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือเสี่ยงต่อการติดเชื้อ:
- ควบคุมเบาหวาน:
- รักษาระดับน้ำตาลในเลือด (HbA1c น้อยกว่า7%) ด้วยยา เช่น metformin, อินซูลิน หรือการปรับอาหาร
- โรงพยาบาลมักนำเสนอ (offer) โปรแกรมตรวจ ACR ปีละครั้งเพื่อจับ microalbuminuria ในผู้ป่วยเบาหวาน
- หลีกเลี่ยงอาหารหวานและคาร์โบไฮเดรตขัดสี
- จัดการความดันโลหิตสูง:
- รักษาความดัน น้อยกว่า130/80 มม.ปรอท ด้วยยา เช่น ACEI (lisinopril) หรือ ARB (losartan)
- ลดเกลือในอาหาร (น้อยกว่า2,300 มก./วัน) และหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป
- แพทย์จะทบทวน (review) ความดันโลหิตทุก 3–6 เดือน [KDIGO 2024]
- ป้องกันการติดเชื้อ:
- รักษาสุขอนามัย เช่น ล้างมือบ่อยๆ และดื่มน้ำเพียงพอเพื่อป้องกันการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
- หากมีอาการปัสสาวะแสบขัด ให้พบแพทย์ทันทีเพื่อรักษาการติดเชื้อและป้องกัน proteinuria ชั่วคราว
- โรงพยาบาลอาจนำเสนอ (offer) การตรวจปัสสาวะเพื่อหาแบคทีเรียในผู้ที่มีประวัติ UTI บ่อย
- ดูแลโภชนาการและน้ำหนัก:
- ควบคุมน้ำหนัก (BMI 18.5–24.9) เพื่อลดภาระไต
- กินผักผลไม้ที่มีโพแทสเซียมต่ำ (เช่น แอปเปิ้ล, องุ่น) หากมีความเสี่ยงโรคไต
- หลีกเลี่ยงยาที่ทำร้ายไต:
- ใช้ยา NSAIDs (เช่น ibuprofen) เฉพาะเมื่อจำเป็นและปรึกษาแพทย์
- แพทย์จะทบทวน (review) รายการยาที่คุณใช้เพื่อลดความเสี่ยง [web:3]
- ตรวจสุขภาพประจำปี:
- ตรวจปัสสาวะและเลือด (ACR, eGFR) โดยเฉพาะในผู้ป่วยเบาหวานหรือความดัน
- โรงพยาบาลหลายแห่งนำเสนอ (offer) แพ็กเกจตรวจสุขภาพที่รวมการตรวจ ACR สำหรับกลุ่มเสี่ยง
- เลิกสูบบุหรี่และจำกัดแอลกอฮอล์:
- การสูบบุหรี่เพิ่มความเสี่ยง CKD และ proteinuria
- จำกัดแอลกอฮอล์ไม่เกิน 1–2 ดื่ม/วัน
เคล็ดลับ: หญิงตั้งครรภ์ที่มีเบาหวานหรือความดันควรตรวจปัสสาวะเป็นประจำเพื่อป้องกันภาวะครรภ์เป็นพิษ ซึ่งอาจทำให้เกิด proteinuria
การดูแลเมื่อพบโปรตีนในปัสสาวะ
หากแพทย์ทบทวน (review) และยืนยันว่าคุณมี proteinuria จากเบาหวาน ความดัน หรือการติดเชื้อ การดูแลที่เหมาะสมจะช่วยชะลอการลุกลามของโรคไตและลดความเสี่ยงโรคหัวใจ:
- รักษาโรคต้นเหตุ:
- เบาหวาน: ควบคุมน้ำตาลในเลือดด้วยยา (metformin, อินซูลิน) และตรวจ HbA1c ทุก 3–6 เดือน
- ความดันโลหิตสูง: ใช้ยา ACEI/ARB เพื่อลดความดันและ proteinuria แพทย์จะทบทวน (review) ความดันทุกการนัด
- การติดเชื้อ: รักษาด้วยยาปฏิชีวนะ (เช่น amoxicillin) และตรวจปัสสาวะซ้ำเพื่อยืนยันว่า proteinuria หายไป
- ใช้ยาเพื่อลด proteinuria:
- ACEI/ARB: ลดการรั่วของโปรตีน ใช้เมื่อ ACR มากกว่า3 มก./มมล. ในผู้ป่วยเบาหวาน [KDIGO 2024]
- SGLT2 inhibitors: เช่น dapagliflozin ช่วยลด proteinuria และชะลอ CKD ในผู้ป่วยเบาหวานหรือ CKD
- Diuretics: ใช้ในกรณีมีอาการบวมจาก nephrotic syndrome
- โรงพยาบาลอาจนำเสนอ (offer) การปรึกษาเภสัชกรเพื่อปรับยาให้เหมาะสม
- ปรับวิถีชีวิต:
- อาหาร: ลดเกลือ (น้อยกว่า2,300 มก./วัน), จำกัดโปรตีน (0.8–1.0 ก./กก.น้ำหนักตัว/วัน), และหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป
- น้ำหนัก: ลดน้ำหนักหากมีโรคอ้วน เพื่อลดภาระไต
- ออกกำลังกาย: ออกกำลังกายปานกลาง (เดินเร็ว 30 นาที/วัน, 5 วัน/สัปดาห์) เพื่อควบคุมน้ำตาลและความดัน
- ติดตามผล:
- ตรวจ ACR/PCR ทุก 3–6 เดือนเพื่อทบทวน (review) การรักษา
- ตรวจ eGFR และ creatinine ปีละครั้ง
- หาก PCR มากกว่า100 มก./มมล. หรือมีอาการรุนแรง (บวมมาก, ปัสสาวะน้อย) โรงพยาบาลจะนำเสนอ (offer) การส่งต่อแพทย์โรคไต
- จัดการอาการ:
- หากมีอาการบวม: จำกัดน้ำและเกลือ, ใช้ยา diuretics ตามแพทย์สั่ง
- หากอ่อนเพลีย: ตรวจระดับอัลบูมินในเลือดและปรับอาหาร
คำเตือน: อย่าซื้อยากินเอง ควรให้แพทย์ทบทวน (review) อาการและวางแผนการรักษา
ตารางความเสี่ยงโปรตีนในปัสสาวะและไตเสื่อม
ระดับโปรตีนในปัสสาวะ (uACR) และการทำงานของไต (eGFR) ช่วยประเมินความเสี่ยงโรคไตเรื้อรัง:
uACR (mg/g) |
ความเสี่ยง |
คำแนะนำ |
น้อยกว่า30 |
ความเสี่ยงต่ำ |
ตรวจสุขภาพประจำปี ควบคุมเบาหวาน/ความดัน |
30–300 |
ความเสี่ยงปานกลาง (microalbuminuria) |
เริ่มยา ACEI/ARB ในผู้ป่วยเบาหวาน, ควบคุมความดัน น้อยกว่า130/80 มม.ปรอท |
มากกว่า300 |
ความเสี่ยงสูง (macroalbuminuria) |
ปรึกษาแพทย์โรคไต, ใช้ยา ACEI/ARB/SGLT2 inhibitors, ติดตาม PCR/ACR |
หมายเหตุ: สีในตารางแสดงระดับความเสี่ยงตาม KDIGO 2024: เขียว (ต่ำ), เหลือง (ปานกลาง), แดง (สูง)
ค่าโปรตีนในปัสสาวะนำมาเป็นแนวทางในการรักษาโรค
ค่าโปรตีนในปัสสาวะนำมาเป็นแนวทางในการดูแลผู้ป่วย
ACR (mg/mmol) |
PCR (mg/mmol) |
Implication |
ACR >3 |
>15 |
ค่าเกินปกติจัดเป็นไตเสื่อมระดับ1หรือสอง หากเป็นผู้ป่วยเบาหวานจะพิจารณาให้ยาลดความดันโลหิตกลุ่ม ACEI หรือ ARB |
30 |
50 |
พิจารณาให้ยา ACE inhibitorหรือ ARB |
70 |
100 |
ควบคุมระดับความดันโลหิต 130/80 มิลิเมตรปรอท |
>250 |
>300 |
โปรตีนในปัสสาวะเข้าเกณฑ์ไตรั่ว “nephrotic syndrome |
ตารางแสดงความสัมพันธ์ของ uACR และภาวะไตเสื่อมกับการดำเนินของโรคไต
สีจะแสดงความเสี่ยงของการเกิดโรคไต
- สีเขียว ความเสี่ยงต่ำ(ต้องไม่มีโรคไต)
- สีเหลือง ความเสี่ยงปานกลาง
- สีส้ม ความเสี่ยงสูง
- สีน้ำเงิน เสี่ยงสูงมาก
- สีแดง เสี่ยงสูงสุด
เมื่อคุณได้รับการทดสอบ uACR จะมีการตรวจเลือดแบบง่ายๆ ที่เรียกว่าอัตราการกรองไตโดยประมาณ (eGFR) ด้วยเช่นกัน eGFR ของคุณแสดงให้เห็นว่าไตของคุณทำงานได้ดีเพียงใด
สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ตรวจพบโปรตีนในปัสสาวะACR>3 mg/mmol) จะเป็นข้อบ่งชี้ในการรักษา
- พิจารณาให้ยาลดความดันโลหิตกลุ่ม ACEIs หรือ ARBs
- ควบคุมระดับความดันโลหิตให้น้อยกว่า 130/80มิลิเมตรปรอท
- ควบคุมระดับน้ำตาลให้ดี
- ควรจะติดตามระดับโรคตีนในปัสสาวะ ACR และการทำงานของไต( creatinine) อย่างน้อยปีละครั้ง
- ปรึกษาแพทย์โรคไต
สรุป
โปรตีนในปัสสาวะ (proteinuria) เป็นสัญญาณเตือนจาก เบาหวาน, ความดันโลหิตสูง, และ การติดเชื้อ ที่อาจนำไปสู่โรคไตเรื้อรังหรือโรคหัวใจ การตรวจ ACR และ PCR ช่วยจับสัญญาณตั้งแต่เนิ่นๆ เรานำเสนอ (offer) คำแนะนำที่ผ่านการทบทวน (review) เพื่อป้องกันด้วยการควบคุมโรคประจำตัว, ลดเกลือ, และตรวจสุขภาพประจำปี หากพบ proteinuria การรักษาโรคต้นเหตุด้วยยา เช่น ACEI, ARB, หรือ SGLT2 inhibitors และการปรับวิถีชีวิตจะช่วยปกป้องไตของคุณ อย่าปล่อยให้ปัสสาวะเป็นฟองเป็นเรื่องเล็กน้อย—ให้แพทย์ทบทวน (review) และเริ่มดูแลวันนี้!
ทบทวนวันที่: 18 เมษายน 2568
โดย: ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคไต
เอกสารอ้างอิง
ข้อมูลในบทความนี้ผ่านการทบทวน (review) จากแหล่งที่น่าเชื่อถือ:
- MedlinePlus. Protein in Urine. https://medlineplus.gov/lab-tests/protein-in-urine/ [web:0]
- Cleveland Clinic. Proteinuria. https://my.clevelandclinic.org/health/diseases/16428-proteinuria [web:1]
- National Kidney Foundation. Proteinuria. https://www.kidney.org/atoz/content/proteinuria [web:2]
- WebMD. Protein in Urine (Proteinuria). https://www.webmd.com/a-to-z-guides/proteinuria-protein-in-urine [web:3]
- Kidney Disease: Improving Global Outcomes (KDIGO) 2024 Clinical Practice Guideline for the Management of Glomerular Diseases.
- Brenner and Rector’s The Kidney. 11th ed. Philadelphia, PA: Elsevier; 2020.