High Cholesterol ภาวะคอเลสเตอรอลสูง: การทำความเข้าใจและการจัดการ
High Cholesterol (ภาวะคอเลสเตอรอลสูง) หรือที่เรียกว่า Hypercholesterolemia เป็นภาวะที่พบได้บ่อยและอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดอย่างมาก บทความนี้จัดทำโดย นพ.ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์ที่มีประสบการณ์ 30 ปี เพื่อให้คุณเข้าใจเกี่ยวกับคอเลสเตอรอลสูง สาเหตุ ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และวิธีจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ
คอเลสเตอรอลสูง (High Cholesterol) คืออะไร?
High Cholesterol หรือภาวะคอเลสเตอรอลสูง คือภาวะที่ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูงเกินเกณฑ์ปกติ คอเลสเตอรอลเป็นสารคล้ายขี้ผึ้งคล้ายไขมันที่ผลิตจากตับ และอยู่ในทุกเซลล์ของร่างกาย ร่างกายต้องการคอเลสเตอรอลเพื่อสร้างเซลล์ที่มีสุขภาพดี, ผลิตฮอร์โมน, วิตามินดี, และน้ำดีที่ช่วยย่อยอาหาร อย่างไรก็ตาม หากระดับคอเลสเตอรอลสูงเกินไป อาจทำให้เกิดการสะสมของไขมันในหลอดเลือด (คราบพลัค) ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปจะจำกัดการไหลเวียนของเลือด และเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจวาย, โรคหลอดเลือดสมอง, และปัญหาหัวใจและหลอดเลือดอื่นๆ
คอเลสเตอรอลรวมตัวกับโปรตีนเพื่อสร้างอนุภาคที่เรียกว่าไลโปโปรตีน และพบได้ในอาหาร เช่น เนื้อสัตว์, ผลิตภัณฑ์จากนม, และไข่ หากกินอาหารเหล่านี้มากเกินไป ตับจะผลิตคอเลสเตอรอลเพิ่มขึ้น
ประเภทของคอเลสเตอรอล
คอเลสเตอรอลมีหลายประเภทที่สำคัญ ดังนี้:
- LDL (Low-Density Lipoprotein): หรือ "คอเลสเตอรอลตัวร้าย" LDL สามารถสะสมไขมันในหลอดเลือด ทำให้เกิดคราบพลัคและเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis)
- HDL (High-Density Lipoprotein): หรือ "คอเลสเตอรอลตัวดี" HDL ช่วยขจัดคอเลสเตอรอลส่วนเกินออกจากกระแสเลือดและผนังหลอดเลือดไปยังตับ เพื่อสลายและขับออกจากร่างกาย
- VLDL (Very Low-Density Lipoprotein): VLDL ขนส่งไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ระดับ VLDL ที่สูงสามารถทำให้เกิดคราบพลัคในหลอดเลือดได้เช่นเดียวกับ LDL
- ไตรกลีเซอไรด์: เป็นไขมันชนิดหนึ่งในเลือด ถูกเก็บในเซลล์ไขมันเพื่อใช้เป็นพลังงาน ระดับไตรกลีเซอไรด์ที่สูง ร่วมกับ LDL สูงหรือ HDL ต่ำ สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด ผู้ที่มีโรคหัวใจ, เบาหวาน, หรือน้ำหนักเกิน มักมีระดับไตรกลีเซอไรด์สูง
ระดับคอเลสเตอรอลปกติคือเท่าไหร่?
ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดวัดเป็นมิลลิกรัมต่อเดซิลิตร (mg/dL) โดยมีเกณฑ์ดังนี้:
- คอเลสเตอรอลรวม (Total Cholesterol): ต่ำกว่า 200 mg/dL ถือว่าปกติ, 200-239 mg/dL ถือว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยง, 240 mg/dL ขึ้นไป ถือว่าสูง
- LDL (ไขมันร้าย): ต่ำกว่า 100 mg/dL ถือว่าดี, 130-159 mg/dL ถือว่าสูงปานกลาง, 160 mg/dL ขึ้นไป ถือว่าสูง
- HDL (ไขมันดี): สูงกว่า 40 mg/dL ในผู้ชาย หรือ 50 mg/dL ในผู้หญิง ถือว่าดี
- ไตรกลีเซอไรด์: ต่ำกว่า 150 mg/dL ถือว่าปกติ, 150-199 mg/dL ถือว่าสูงปานกลาง, 200 mg/dL ขึ้นไป ถือว่าสูง
คอเลสเตอรอลรวมคำนวณจาก LDL + HDL + (20% ของไตรกลีเซอไรด์)
คอเลสเตอรอลสูง ?(High Cholesterol)เกิดจากอะไร
ภาวะคอเลสเตอรอลสูงเกิดได้จากหลายปัจจัย ดังนี้:
- อาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ: การกินอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์สูง เช่น เนื้อแดง, อาหารทอด, เนย, ชีส, นมทั้งตัว, ฟาสต์ฟู้ด, น้ำมันปาล์ม, และน้ำมันมะพร้าว
- ขาดการออกกำลังกาย: การไม่ออกกำลังกายทำให้ HDL (ไขมันดี) ลดลง และเพิ่มระดับ LDL
- น้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน: ดัชนีมวลกาย (BMI) สูง (ปกติควรอยู่ที่ 18-22.9) มักสัมพันธ์กับระดับ LDL และไตรกลีเซอไรด์ที่สูง
- พันธุกรรม: ภาวะคอเลสเตอรอลในเลือดสูงทางพันธุกรรม (Familial Hypercholesterolemia) ทำให้ตับผลิตคอเลสเตอรอลมากเกินไป
- พฤติกรรม: การสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์หนัก (ดื่มมากเกินไป) ลด HDL และเพิ่มไตรกลีเซอไรด์
- โรคบางชนิด: เช่น เบาหวาน, ภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำ, หรือโรคตับ
- อายุและเพศ: ผู้สูงอายุและผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนมีความเสี่ยงมากขึ้น
คอเลสเตอรอลสูง (High Cholesterol) มีอาการอย่างไร?
High Cholesterol มักไม่มีอาการชัดเจน คุณอาจมีคอเลสเตอรอลสูงโดยไม่รู้ตัว จนกว่าจะตรวจเลือดหรือเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น อาการเจ็บหน้าอก (จากโรคหัวใจ), ชาครึ่งซีก หรือพูดลำบาก (จากโรคหลอดเลือดสมอง) ดังนั้น การตรวจคอเลสเตอรอลเป็นประจำจึงเป็นสิ่งสำคัญ
เมื่อไรควรตรวจคอเลสเตอรอล?
สมาคมโรคหัวใจของอเมริกาแนะนำให้ทุกคนที่อายุมากกว่า 20 ปี ตรวจระดับคอเลสเตอรอลทุก 4-6 ปี หรือบ่อยกว่านั้นหากมีปัจจัยเสี่ยง เช่น:
- มีประวัติครอบครัวเป็นโรคหัวใจหรือคอเลสเตอรอลสูง
- มีน้ำหนักเกิน, สูบบุหรี่, หรือเป็นเบาหวาน
- ขาดการออกกำลังกายหรือมีพฤติกรรมที่ไม่ดีต่อสุขภาพ
ขั้นตอนการตรวจคอเลสเตอรอล
การตรวจคอเลสเตอรอลทำได้โดยการเจาะเลือด (Lipid Profile) ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้:
- งดอาหารและน้ำ (ยกเว้นน้ำเปล่า) 9-12 ชั่วโมงก่อนเจาะเลือด เพื่อให้ผลแม่นยำ โดยส่วนใหญ่จะทำในตอนเช้า
- แพทย์หรือพยาบาลจะเจาะเลือดจากแขนเพื่อส่งตรวจ
- ผลการตรวจมักทราบภายใน 1-2 วัน
ผลการตรวจจะประกอบด้วย 4 ส่วนหลัก:
- คอเลสเตอรอลรวม: ปริมาณคอเลสเตอรอลทั้งหมดในเลือด (LDL + HDL + 20% ของไตรกลีเซอไรด์)
- LDL: ระดับ "คอเลสเตอรอลตัวร้าย" ที่อาจทำให้หลอดเลือดอุดตัน
- HDL: ระดับ "คอเลสเตอรอลตัวดี" ที่ช่วยกำจัดคอเลสเตอรอลส่วนเกิน
- ไตรกลีเซอไรด์: ระดับไขมันในเลือดที่ส่งผลต่อสุขภาพคอเลสเตอรอล
ความเสี่ยง: การตรวจนี้มีความเสี่ยงน้อยมาก อาจมีรอยช้ำเล็กน้อยจากการเจาะเลือด
ภาวะแทรกซ้อนของ High Cholesterol
หากปล่อยให้คอเลสเตอรอลสูงโดยไม่จัดการ อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพร้ายแรง เช่น:
- โรคหลอดเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis): การตีบและแข็งตัวของหลอดเลือดจากการสะสมของคราบพลัค
- โรคหัวใจวาย: การอุดตันในหลอดเลือดที่นำเลือดไปเลี้ยงหัวใจ
- โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke): การไหลเวียนเลือดไปสมองลดลงจากการอุดตันของหลอดเลือด
- โรคหลอดเลือดส่วนปลาย (Peripheral Artery Disease): การจำกัดการไหลเวียนเลือดไปยังแขนขา ซึ่งอาจทำให้เจ็บปวดและเคลื่อนไหวลำบาก
ลด High Cholesterol ได้อย่างไร?
นพ.ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร แนะนำวิธีลดคอเลสเตอรอล ดังนี้:
- รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพหัวใจ:
- เพิ่มไฟเบอร์: กินผัก, ผลไม้ (เช่น แอปเปิ้ล, ส้ม, อะโวคาโด), ธัญพืชเต็มเมล็ด (เช่น ข้าวโอ๊ต), และถั่ว (เช่น อัลมอนด์, วอลนัท)
- เลือกไขมันดี: ใช้น้ำมันมะกอก, น้ำมันถั่ว, หรือน้ำมันคาโนลา แทนน้ำมันที่มีไขมันอิ่มตัวสูง
- กินปลาที่มีโอเมก้า-3: เช่น ปลาแซลมอน, ปลาทู
- จำกัดไขมันอิ่มตัว: ควรน้อยกว่า 7% ของพลังงานทั้งหมด และหลีกเลี่ยงไขมันทรานส์ (เช่น ฟาสต์ฟู้ด, เนย, ผลิตภัณฑ์นมที่มีไขมันเต็มส่วน)
- เลือกนมพร่องมันเนย: แทนผลิตภัณฑ์นมที่มีไขมันสูง
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: อย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ เช่น เดินเร็ว 30 นาที 5 วันต่อสัปดาห์, ขี่จักรยาน, หรือว่ายน้ำ เพื่อลด LDL และเพิ่ม HDL สำหรับผู้ที่ไม่เคยออกกำลังกาย เริ่มจากกิจกรรมเบาๆ
- รักษาน้ำหนักให้เหมาะสม: ลดน้ำหนักหาก BMI สูงเกิน 22.9 การลดน้ำหนักเพียง 5-10% สามารถลดระดับคอเลสเตอรอลได้
- เลิกสูบบุหรี่: การสูบบุหรี่ลด HDL และทำลายหลอดเลือด การหยุดสูบบุหรี่ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ
- จำกัดการดื่มแอลกอฮอล์: ชาย: ไม่เกิน 2 หน่วย/วัน, หญิง: ไม่เกิน 1 หน่วย/วัน เพราะแอลกอฮอล์มากเกินไปเพิ่มไตรกลีเซอไรด์
- ใช้ยาเมื่อจำเป็น: หากการปรับวิถีชีวิตไม่เพียงพอ แพทย์อาจสั่งยา เช่น สแตติน (Statins) หรือยาต้าน PCSK9 เพื่อลดระดับคอเลสเตอรอล
วิธีการจัดการกับคอเลสเตอรอลสูง
- รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพหัวใจ: มุ่งเน้นการบริโภคผัก ผลไม้ ธัญพืชเต็มเมล็ด และโปรตีนจากแหล่งที่มีไขมันต่ำ
- หลีกเลี่ยงอาหารไขมันอิ่มตัวเช่นอาหารแปรูปทั้งหลาย นมและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม
- รับประทานธัญพืชครบส่วน ผลิตภัณฑ์นมพร่องมันเนย
- รับประทานผักและผลไม้
- รับประทานถั่ว
- รับประทานไขมันอิ่มตัวให้น้อยกว่าร้อย7ของพลังงานทั้งหมด
- กินไฟเบอร์มากขึ้น ธัญพืชเต็มเมล็ด ผลไม้ และผักสามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลของคุณได้
- จำกัดปริมาณไขมันทรานส์ และไขมันอิ่มตัวในอาหารของคุณ สิ่งเหล่านี้มักพบในอาหารสำเร็จรูป ฟาสต์ฟู้ด เนย น้ำมันปาล์มและน้ำมันมะพร้าว และผลิตภัณฑ์จากนมที่มีไขมันเต็มส่วน (เช่น นมทั้งตัว) ให้เลือกใช้ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวที่พบใน น้ำมันถั่ว น้ำมันมะกอก ถั่วลิสง และน้ำมันคาโนลา
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ: พยายามออกกำลังกายที่มีความเข้มข้นปานกลางอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ การออกกำลังกายเป็นประจำเช่นการเดินเร็วเพียงวันละ 30 นาทีสัปดาห์ละ 5 วันจะสามารถลดไขมันไม่ดี LDL และเพิ่มไขมันที่ดี HDL สำหรับผู้ที่ไม่เคยออกกำลังกายแนะนำให้เริมออกกำลังกายแบบเบาๆได้แก่ การเดิน การขี่จักรยาน การว่ายน้ำ
- รักษาน้ำหนักให้เหมาะสม: การลดน้ำหนักแม้เพียงเล็กน้อยสามารถช่วยลดระดับ LDL และไตรกลีเซอไรด์ได้ คนปกติจะมีดัชนีมวลกายอยู่ระหว่าง18-22.9 หากมีค่าดัชนีมวลกายสูงมากจะทำให้ไขมันคอเลสเตอรอลในเลือดสูง การลดน้ำหนักเพียงร้อยละ5-10จะสามารถลดระดับไขมันคอเลสเตอรอลลงได้ โรคอ้วน
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และจำกัดการดื่มแอลกอฮอล์: การสูบบุหรี่ลดระดับ HDL และทำลายหลอดเลือด ขณะที่การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปสามารถเพิ่มระดับไตรกลีเซอไรด์และคอเลสเตอรอล
- การใช้ยา: หากการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตไม่เพียงพอ แพทย์อาจสั่งยา เช่น สแตติน (Statins) หรือยาต้าน PCSK9 เพื่อช่วยจัดการระดับคอเลสเตอรอล
- หยุดสูบบุหรี่การสูบบุหรี่จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด การหยุดสูบบุหรี่จะลดคอเลสเตอรอลในเลือด
- การดื่มสุราหากคุณดื่มสุราก็แนะนำให้ลดการดื่มสุราลงเหลือชายวันละ 2 หน่วยส่วนหญิงลดลงเหลือวันละ1หน่วย

เมื่อใดควรพบแพทย์?
การตรวจคอเลสเตอรอลเป็นประจำเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะหากคุณมีปัจจัยเสี่ยง เช่น ประวัติครอบครัวที่มีโรคหัวใจ, น้ำหนักเกิน, ขาดการออกกำลังกาย, สูบบุหรี่, หรือดื่มแอลกอฮอล์หนัก การตรวจพบตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้สามารถจัดการได้ทันเวลาและลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อน
ตารางสรุประดับคอเลสเตอรอล
ประเภท |
ระดับปกติ |
ระดับกลุ่มเสี่ยง |
ระดับสูง |
คำแนะนำ |
คอเลสเตอรอลรวม |
ต่ำกว่า 200 mg/dL |
200-239 mg/dL |
240 mg/dL ขึ้นไป |
ปรับอาหาร, อออกกำลังกาย |
LDL (ไขมันร้าย) |
ต่ำกว่า 100 mg/dL |
130-159 mg/dL |
160 mg/dL ขึ้นไป |
ปรึกษาแพทย์ อาจต้องใช้ยา |
HDL (ไขมันดี) |
สูงกว่า 40 mg/dL (ชาย), 50 mg/dL (หญิง) |
- |
ต่ำกว่าเกณฑ์ |
ออกกำลังกายเพื่อเพิ่ม HDL |
ไตรกลีเซอไรด์ |
ต่ำกว่า 150 mg/dL |
150-199 mg/dL |
200 mg/dL ขึ้นไป |
ลดน้ำหนัก, จำกัดแอลกอฮอล์ |
สรุป
High Cholesterol (ภาวะคอเลสเตอรอลสูง) เป็นภาวะที่สามารถจัดการได้ด้วยการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต เช่น รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพหัวใจ, ออกกำลังกายสม่ำเสมอ, เลิกสูบบุหรี่, และจำกัดแอลกอฮอล์ หากจำเป็น อาจต้องใช้ยา เช่น สแตติน ตามคำแนะนำของแพทย์ คอเลสเตอรอลเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับร่างกาย แต่หากสูงเกินไปจะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด การตรวจคอเลสเตอรอลเป็นประจำและปรึกษาแพทย์จะช่วยให้คุณรักษาระดับคอเลสเตอรอลให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
ทบทวนวันที่: 24 เมษายน 2568
โดย: นพ.ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร, อายุรแพทย์
เอกสารอ้างอิง
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ High Cholesterol (FAQ)
High Cholesterol คืออะไร?
High Cholesterol หรือภาวะคอเลสเตอรอลสูง คือภาวะที่ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูงเกินเกณฑ์ปกติ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด
ระดับคอเลสเตอรอลปกติคือเท่าไหร่?
ระดับคอเลสเตอรอลรวมปกติควรต่ำกว่า 200 mg/dL, LDL (ไขมันร้าย) ควรต่ำกว่า 100 mg/dL, HDL (ไขมันดี) ควรสูงกว่า 40 mg/dL ในผู้ชาย หรือ 50 mg/dL ในผู้หญิง และไตรกลีเซอไรด์ควรต่ำกว่า 150 mg/dL
อะไรทำให้เกิด High Cholesterol?
สาเหตุของ High Cholesterol รวมถึงอาหารที่มีไขมันสูง, ขาดการออกกำลังกาย, สูบบุหรี่, ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป, น้ำหนักเกิน, พันธุกรรม, และโรคบางชนิด เช่น เ�เบาหวาน
High Cholesterol มีอาการอย่างไร?
High Cholesterol มักไม่มีอาการชัดเจน แต่สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ, เส้นเลือดตีบ, หรือโรคหลอดเลือดสมองได้
ลด High Cholesterol ได้อย่างไร?
ลด High Cholesterol ได้ด้วยการกินอาหารที่มีไขมันต่ำ, ออกกำลังกายสม่ำเสมออย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์, เลิกสูบบุหรี่, จำกัดแอลกอฮอล์ (ชาย: 2 หน่วย/วัน, หญิง: 1 หน่วย/วัน), ลดน้ำหนัก, และอาจใช้ยาลดคอเลสเตอรอล เช่น สแตติน ตามคำแนะนำของแพทย์
