การวัดระดับคลอไรด์ chloride ในเลือด
การตรวจวัดระดับคลอไรด์ Chloride สามารถตรวจวัดได้ทั้งในกระแสเลือด ปัสสาวะหรือเหงื่อ คลอไรด์เป็นธาตุที่มีความสำคัญมาก เป็นตัวควบคุมความสมดุลของน้ำทั้งในเซลล์และน้ำนอกเซลล์ ควบคุมปริมาณเลือด ความดันโลหิต และความเป็นกรดด่าง โดยมากมักจะตรวจ โซเดี่ยม โพแทสเซี่ยมและ ไบคาร์บอเนตร่วมด้วยเสมอ
คลอไรด์ในร่างกายได้มาจากการรับประทานอาหารในรูปของเกลือแกง และถูกดูดซึมที่ลำไส้เล็ก ส่วนเกินจะถูกขับออกทางไต
คลอไรด์จะมีบทบาทสร้างสภาวะความสมดุลในเรื่องใหญ่ ๆ ถึง 4 ประการ คือ
- รักษาสมดุลระหว่างของเหลวภายในและภายนอกเซลล์
- รักษาปริมาตรของน้ำเลือดทั้งระบบให้มีขนาดพอดี ๆ
- รักษาความดันเลือดให้อยู่ในระดับปกติ และ
- รักษาระดับความเป็นกรดด่าง (pH)
เหตุผลในการส่งตรวจคลอไรด์
การตรวจนี้แพทย์บางท่านจะส่งตรวจเพื่อเป็นการตรวจสุขภาพทั่วไป หรือส่งตรวจเพื่อวินิจฉัยโรค หรือติดตามการรักษา เหตุผลในการส่งตรวจ
- แพทย์จะตรวจ Chloride หากท่านมีอาการดังต่อไปนี้ กล้ามเนื้อกระตุก มีปัญหาเรื่องการหายใจ อ่อนแรง สับสน
- ตรวจหาว่าท่านเป็นโรคไต หรือต่อมหมวกไต
- มีอาการอาเจียนหรือท้องร่วงเป็นเวลานาน
- ติดตามการรักษาในกรณีมีโรคประจำตัวเช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจวาย โรคตับ โรคไต
- ติดตามการรักษาในกรณีที่ได้รับยาที่มีผลต่อกรดและเกลือแร่
วิธีการตรวจ คลอไรด์
- ตรวจจากหลอดเลือดดำ โดยการเจาะเลือดดำเพื่อส่งตรวจ
- ตรวจจากหลอดเลือดที่สายสะดือ เมื่อเด็กคลอดออกมาแล้วแพทย์จะใช้เข็มเจาะหลอดเลือดที่สายสะดือ
- ตรวจหาคลอไรด์ในปัสสาวะ โดยเก็บปัสสาวะตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อหาปริมาณคลอไรด์ที่ขับออกมาใน 24 ชั่วโมง
- ตรวจหาคลอไรด์ในเหงื่อใช้สำหรับการทดสอบโรค cystic fibrosis.
การตรวจปัสสาวะหาคลอไรด์
- เมื่อตื่นแต่เช้าให้ถ่ายปัสสาวะทิ้งไม่ต้องเก็บ จดเวลาที่ปัสสาวะ
- หลังจากนั้นเก็บปัสสาวะทุกครั้งที่ถ่ายโดยใส่ในภาชนะที่แพทย์ให้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยถ่ายเก็บในภาชนะแล้วจึงเทลงในขวดที่แพทย์ให้มา โดยในขวดที่ให้มาจะมีสารกันบูดเล็กน้อยห้ามเอามือไปสัมผัส
- ขวดที่บรรจุปัสสาวะให้เก็บไว้ในตู้เย็น
- ให้เก็บปัสสาวะครั้งสุดท้ายไม่เกิดเวลาที่จดไว้แต่เริ่มต้น
ค่าปกติของChloride
ค่าปกติChloride ในเลือด
- ผู้ใหญ่ 96–106 milliequivalents per liter (mEq/L)
- ทารก 96–113 mEq/L (96–113 mmol/L)
ค่าคลอไรด์ในปัสสาวะ
- เด็กอายุ10-14ปี64–176 mEq/24 hours (64–176 mmol/day)
- เด็กอายุน้อยกว่า 6 ปี15–40 mEq/24 hours (15–40 mmol/day)
- ผู้ใหญ่140–250 mEq per 24 hours
ความผิดปกติของ คลอไรด์ที่พบ
ค่าคลอไรด์สูง สาเหตุ
- ขาดน้ำ Dehydration จากอาเจียนหรือถ่ายเหลวมาก
- รับประทานเกลือมาก
- โรคไต
- โรคพาราไทรอยด์ทำงานมากไป(hyperparathyroidism).
- จากยารักษาต้อหิน
- ภาวะเลือดเป็นกรด Metabolic acidosis
ค่าคลอไรด์ chlorideต่ำสาเหตุ
- ภาวะที่ร่างกายมีการสะสมน้ำเช่น syndrome of inappropriate antidiuretic hormone secretion (SIADH).
- โรคต่อมหมวกไต Addison's disease.
- ภาวะที่เลือดเป็นด่าง(metabolic alkalosis).
- หัวใจวาย
- อาเจียนอย่างต่อเนื่อง
- เหงื่อออกมาก
- ผู้ป่วยที่ใส่สายเข้ากระเพาะอาหารและดูดน้ำย่อยออกตลอดเวลา Gastric suction
ปัจจัยที่มีผลต่อค่าคลอไรด์
- เป็นที่ทราบกันแล้วว่าปริมาณน้ำมีผลต่อระดับคลอไรด์ในเลือด หากคุณขาดน้ำระดับคลอไรด์จะเพิ่ม หากคุณมีปริมาณน้ำเกินเช่นภาวะบวมน้ำจากตับแข็ง หรือโรคไตจะมีระดับคลอไรด์ต่ำ
- ยาบางชนิดเช่น corticosteroids,ยาแก้ปวดกลุ่ม nonsteroidal anti-inflammatory drugs (NSAIDs), ยาฮอร์โมน estrogens, male hormones (androgens),ยาลดความดันโลหิต, ยาลดไขมัน cholestyramine , ยาขับปัสสาวะ
- ภาวะที่ทำให้คลอไรด์เพิ่มขึ้นพบในภาวะ
- ไขมันในเลือดเพิ่มขึ้น Hypertriglyceridemia
- ลดลงพบในภาวะ
- Acute intermittent porphyria
- Postprandial state
อาหารประเภทใดที่มีคลอไรด์
คลอไรด์ Chloride พบในเกลือแกงที่เรารับประทาน นอกจากนั้นยังพบในผักหลายชนิด และพบมากในอาหารหลายชนิดเช่น สาหร่ายทะเล มะเขือเทศ ผักกาดหอม ข้าวไร ผักชีฝรั่ง มะกอก
คนปกติต้องการคลอไรด์วันละเท่าไร
ทารก
- 0 - 6 เดือน: 0.18* grams per day (g/day)
- 7 - 12 เดือน: 0.57* g/day
เด็ก
- 1 - 3 ปี: 1.5* g/day
- 4 - 8 ปี: 1.9* g/day
- 9 - 13 ปี: 2.3* g/day
ผู้ใหญ่
- อายุ 14 - 50 ปี: 2.3* g/day
- อายุ 51- 70: 2.0* g/day
- อายุ มากกว่า71 : 1.8* g/day
โซเดี่ยม | โพแทสเซี่ยม | คลอไรด์ | ไบคาร์โบเนต | เกลือแกง | เกลือและสุขภาพ
ทบทวนวันที่ 23/1/2566
โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว