ทำความเข้าใจเกี่ยวกับปริมาณยา Atorvastatin

ยานี้ควรใช้อย่างไร?

อะตอร์วาสแตตินมีรูปแบบเป็นเม็ดและของเหลวสำหรับรับประทานทางปาก

โดยปกติจะรับประทานเม็ดวันละครั้งพร้อมหรือไม่พร้อมอาหารก็ได้ สามารถรับประทานได้ตลอดเวลา แต่ควรรับประทานในเวลาเดียวกันทุกวัน
รับประทานยาในรูปแบบของเหลวในขณะท้องว่างอย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนอาหารหรือ 2 ชั่วโมงหลังอาหาร เขย่ายาแขวนลอยสำหรับรับประทาน (ในรูปแบบของเหลว) ตวงขนาดยาด้วยอุปกรณ์วัดที่ให้มา (ไม่ใช่ช้อนในครัว)
รับประทานอะตอร์วาสแตตินในเวลาเดียวกันทุกวัน ปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลากยาอย่างเคร่งครัด
และขอให้แพทย์หรือเภสัชกรอธิบายส่วนที่คุณไม่เข้าใจ รับประทานอะตอร์วาสแตตินตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด อย่ารับประทานมากหรือน้อยเกินไป หรือรับประทานบ่อยกว่าที่แพทย์สั่ง
อย่าเปลี่ยนขนาดยาหรือหยุดรับประทานยาใดๆ โดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์

อาจใช้เวลานานถึง 2 สัปดาห์ก่อนที่ระดับคอเลสเตอรอลของคุณจะดีขึ้น

แพทย์ของคุณอาจเริ่มให้คุณรับประทานอะตอร์วาสแตตินในขนาดต่ำ และค่อยๆ เพิ่มขนาดยาขึ้น ไม่เกิน 1 ครั้งในทุกๆ 2 ถึง 4 สัปดาห์ หากคุณกำลังรับประทานยาแขวน อย่าใช้ช้อนบ้านๆ ในการวัดขนาดยา ให้ใช้อุปกรณ์วัดที่มีเครื่องหมายกำกับอย่างถูกต้อง เช่น ช้อนยาหรือไซริงค์สำหรับช่องปาก สอบถามแพทย์หรือเภสัชกรของคุณหากคุณต้องการความช่วยเหลือในการรับหรือการใช้อุปกรณ์วัดขนาด

รับประทานอะตอร์วาสแตตินต่อไป แม้ว่าคุณจะรู้สึกดีขึ้นแล้วก็ตาม อย่าหยุดรับประทานอะตอร์วาสแตตินโดยไม่ได้ปรึกษาแพทย

รูปแบบของอะตอร์วาสแตติน

อะตอร์วาสแตตินมีจำหน่ายในรูปแบบ Atorvaliq, Lipitor และอะตอร์วาสแตตินแบบสามัญในรูปแบบยาต่อไปนี้ ซึ่งใช้สำหรับรับประทานทางปาก

เม็ดยารับประทาน 10 มก.
เม็ดยารับประทาน 20 มก.
เม็ดยารับประทาน 40 มก.
เม็ดยารับประทาน 80 มก.
20 มก./5 มล. สารแขวนลอยทางปาก

ขนาดยาอะตอร์วาสแตตินที่ใช้

ขนาดยานี้จะแตกต่างกันสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย ปฏิบัติตามคำสั่งของแพทย์หรือคำแนะนำบนฉลาก ข้อมูลต่อไปนี้เป็นข้อมูลขนาดยาเฉลี่ยเท่านั้น หากขนาดยาของคุณแตกต่างกัน อย่าเปลี่ยนขนาดยา เว้นแต่แพทย์จะแนะนำให้เปลี่ยน

ปริมาณยาที่รับประทานขึ้นอยู่กับความแรงของยา นอกจากนี้ จำนวนครั้งในการรับประทานในแต่ละวัน ระยะเวลาที่เว้นไว้ระหว่างการรับประทานยาแต่ละครั้ง และระยะเวลาในการรับประทานยาขึ้นอยู่กับปัญหาทางการแพทย์ที่คุณกำลังใช้ยา

สำหรับผู้ที่มีคอเลสเตอรอลสูง:

ผู้ใหญ่—ในช่วงแรกให้รับประทานครั้งละ 10 หรือ 20 มิลลิกรัม (มก.) วันละครั้ง ผู้ป่วยบางรายอาจต้องเริ่มรับประทานด้วยขนาด 40 มิลลิกรัมต่อวัน แพทย์อาจเพิ่มขนาดยาตามความจำเป็น อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้วขนาดยาจะไม่เกิน 80 มิลลิกรัมต่อวัน
เด็กอายุ 10 ปีขึ้นไปที่มีภาวะไขมันในเลือดสูงแบบพันธุกรรม (HeFH) — ในตอนแรก ให้ยา 10 มก. ครั้งเดียวต่อวัน แพทย์อาจเพิ่มขนาดยาตามความจำเป็น อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้ว ขนาดยาจะไม่เกิน 20 มก. ต่อวัน
เด็กอายุ 10 ปีขึ้นไปที่มีภาวะไขมันในเลือดสูงแบบพันธุกรรม (HoFH) — ในตอนแรกให้รับประทาน 10 ถึง 20 มก. ครั้งเดียวต่อวัน แพทย์อาจเพิ่มขนาดยาตามความจำเป็น อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้ว ขนาดยาจะไม่เกิน 80 มก. ต่อวัน
เด็กอายุน้อยกว่า 10 ปี — การใช้และขนาดยาต้องขึ้นอยู่กับแพทย์เป็นผู้กำหนด

หมายเหตุ:

ประเมิน LDL-C เมื่อเหมาะสมทางคลินิกโดยเร็วที่สุดภายใน 4 สัปดาห์หลังจากเริ่มใช้ Lipitor และปรับขนาดยาหากจำเป็น

ฉันควรจัดเก็บอะตอร์วาสแตตินอย่างไร?

เม็ดยารับประทาน

ควรเก็บเม็ดยาอะตอร์วาสแตตินชนิดรับประทานไว้ที่อุณหภูมิห้องระหว่าง 68 F ถึง 77 F (20 C ถึง 25 C) สามารถเก็บยาไว้ที่อุณหภูมิระหว่าง 59 F ถึง 86 F (15 C ถึง 30 C) เป็นระยะเวลาสั้นๆ เช่น ในระหว่างการขนส่ง ควรเก็บในที่เย็นและแห้ง

ของเหลวสำหรับรับประทาน

ควรเก็บยาแขวนลอยอะตอร์วาสแตตินสำหรับรับประทานที่อุณหภูมิห้องระหว่าง 68 F ถึง 77 F (20 C ถึง 25 C) สามารถเก็บไว้ที่อุณหภูมิระหว่าง 59 F ถึง 86 F (15 C ถึง 30 C) เป็นระยะเวลาสั้นๆ เช่น เมื่อต้องขนส่ง ควรเก็บยาไว้ในที่แห้งและเย็นในขวดเดิม ใช้ให้หมดภายใน 60 วันแรกหลังจากเปิดขวด จากนั้นทิ้งยาที่เหลือทั้งหมด

การให้ยาในผู้ใหญ่

การกำหนดขนาดยาอะตอร์วาสแตตินสามารถมีพื้นฐานมาจากความสามารถในการลดระดับ LDL-C (ความเข้มข้น) หรือขนาดยาอาจปรับได้ตามเป้าหมายไขมันที่เฉพาะเจาะจง

แนวทางของ American College of Cardiology/American Heart Association แนะนำให้ใช้การบำบัดแบบเข้มข้นปานกลาง (Atorvastatin 10 ถึง 20 มก.) หรือแบบเข้มข้นสูง (Atorvastatin 40 ถึง 80 มก.) ขึ้นอยู่กับกลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับสแตติน สแตตินแบบเข้มข้นปานกลางควรลด LDL-C ลงประมาณ 30 ถึง 50% ในขณะที่สแตตินแบบเข้มข้นสูงควรลด LDL-C ลงมากกว่า 50%

กุมารเวชศาสตร์

ข้อมูลการศึกษาสำหรับผู้ป่วยเด็กที่มีภาวะไขมันในเลือดสูงแบบครอบครัวผสมเฮเทอโรไซกัสในขนาดยาที่สูงกว่า 20 มก. มีการใช้ขนาดยาที่สูงถึง 80 มก. ในผู้ป่วยเด็กที่มีภาวะไขมันในเลือดสูงแบบครอบครัวผสมอยู่จำนวนจำกัด การศึกษายังไม่ได้ประเมินการใช้อะตอร์วาสแตตินในผู้ป่วยก่อนวัยแรกรุ่นหรือผู้ป่วยที่มีอายุต่ำกว่า 10 ปี

เวชศาสตร์ผู้สูงอายุ

ผู้ป่วยที่มีอายุมากกว่า 65 ปีอาจมีความเข้มข้นของอะตอร์วาสแตตินในพลาสมาที่สูงกว่าผู้ใหญ่ตอนต้น ผู้ป่วยที่มีอายุมากกว่าอาจมีความเสี่ยงต่อโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงที่เกิดจากสแตตินเพิ่มขึ้น

ความบกพร่องของไต

อะตอร์วาสแตตินและเมตาบอไลต์ของอะตอร์วาสแตตินจะไม่ถูกกำจัดออกทางไต ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องปรับขนาดยาหากไตทำงานลดลง การฟอกไตด้วยเครื่องไตเทียมอาจไม่สามารถกำจัดอะตอร์วาสแตตินออกได้เนื่องจากโปรตีนในพลาสมาจับกับยา

ความบกพร่องของตับ

ความเข้มข้นของอะตอร์วาสแตตินในพลาสมาเพิ่มขึ้นในผู้ป่วยโรคตับจากแอลกอฮอล์เรื้อรัง การได้รับยาจะสูงขึ้นสี่เท่าในผู้ป่วย Child-Pugh Class A และสูงขึ้น 11 เท่าในผู้ป่วย Child-Pugh Class B อะตอร์วาสแตตินมีข้อห้ามใช้ในผู้ป่วยที่มีโรคตับที่ยังคงดำเนินอยู่

ทบทวนวันที่

โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว