หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ
อาการของผู้ที่รับประทานเกลือเกิน: สัญญาณเตือนและผลกระทบต่อสุขภาพ
ปัสสาวะมาก | กระหายน้ำอย่างต่อเนื่อง | การบวมในที่แปลก ๆ | คุณรู้สึกว่าอาหารจืดชืดและน่าเบื่อ | ปวดหัวเล็กน้อยบ่อยๆ | คุณกระหายอาหารรสเค็ม | การแก้ไขเมื่อรับประทานอาหารเค็ม
การบริโภคเกลือมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ มันเพิ่ม ความดันโลหิต การวิจัยแสดงให้เห็นว่าโดยเฉลี่ยแล้ว ปริมาณเกลือที่เราได้รับในแต่ละวันควรอยู่ที่ 6 กรัม หรือ 1 ช้อนชา แต่คนส่วนใหญ่บริโภคเกลือ 7.2 กรัมทุกวัน เราได้รับเกลือจากอาหารโดยที่เราไม่รู้ว่ามากหรือน้อยเนื่องจากความคุ้นเคยกับรสชาดอาหาร ดังนั้นควรมีการตรวจสอบปริมาณเกลือในอาหาร
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าโซเดียมเป็นส่วนประกอบที่ซ่อนอยู่และวัดได้ยาก ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่บุคคลจะประเมินปริมาณโซเดียมที่บริโภคในหนึ่งวัน วิธีที่ดีที่สุดในการวัดคือการขับโซเดียมออกทางปัสสาวะ การทดสอบนี้จะตรวจสอบปริมาณเกลือในตัวอย่างปัสสาวะของบุคคล ปริมาณโซเดียมมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงทุกวัน ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือการตรวจสอบระดับโซเดียมเป็นเวลาหลายวัน
ต่อไปนี้คือสัญญาณร้ายแรง 6 ประการที่บ่งบอกว่าคุณบริโภคเกลือมากเกินไป
1. ปัสสาวะบ่อยผิดปกติและปัสสาวะมาก
- กลไก: ไตทำงานหนักเพื่อขับโซเดียมส่วนเกิน ทำให้ปัสสาวะมากขึ้น
- สังเกต: ปัสสาวะมีสีใสหรือมีฟอง
การปัสสาวะบ่อยเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าคุณบริโภคเกลือมากเกินไป โดยส่วนใหญ่ คุณอาจรู้สึกว่าจำเป็นต้องตื่นกลางดึกเพื่อปัสสาวะอย่างเร่งด่วน อย่างไรก็ตาม เป็นอาการของภาวะอื่นๆ เช่น UTIs เบาหวาน และกระเพาะปัสสาวะไวเกิน ทำการทดสอบให้แน่ใจว่าสาเหตุที่แท้จริงคืออะไร อย่างไรก็ตาม การบริโภคเกลือมากเกินไปอาจเป็นสาเหตุได้
2. กระหายน้ำตลอดเวลากระหายน้ำอย่างต่อเนื่อง
- สาเหตุ: โซเดียมรบกวนสมดุลน้ำในเซลล์ สมองส่งสัญญาณให้รู้สึกหิวน้ำ
การบริโภคเกลือมากเกินไปอาจทำให้คุณรู้สึกกระหายได้เกือบตลอดเวลา สิ่งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากอาหารที่มีโซเดียมสูงไปรบกวนสมดุลของเหลวในร่างกายของคุณ วิธีที่ดีที่สุดที่จะทำสิ่งนี้คือการดื่มน้ำมาก ๆ ร่างกายของคุณยังคงส่งสัญญาณว่าต้องการน้ำมากขึ้นเพื่อคืนความสมดุลของเกลือในร่างกายของคุณ
3. การบวมในที่แปลก ๆ
สาเหต: โซเดียมทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำมากขึ้น
การบริโภคเกลือมากเกินไปอาจทำให้คุณบวมตามส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ มือ เท้า ใบหน้า หรือข้อบวม กดแล้วมีรอยบุ๋ม นี่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณรู้สึกอ้วนในตอนเช้า อาการบวมสามารถรู้สึกได้ที่นิ้วและรอบข้อเท้า อาการบวมนี้เกิดจากของเหลวที่มากเกินไปในเนื้อเยื่อของร่างกายและเรียกว่าอาการบวมน้ำ เชื่อกันว่าอาการบวมน้ำเป็นอาการที่คุณบริโภคเกลือมากเกินไป วิธีแก้ปัญหาง่ายๆ คือการลดการบริโภคโซเดียมของคุณ
4. คุณรู้สึกว่าอาหารจืดชืดและน่าเบื่อ
คุณรู้สึกว่าจำเป็นต้องเติมเกลือในอาหารของคุณบ่อยหรือไม่? คุณพบว่าอาหารจืดชืดและน่าเบื่ออย่างต่อเนื่องหรือไม่? นั่นอาจเป็นเพราะคุณเคยชินกับการกินเกลือมากเกินไป เมื่อเวลาผ่านไป ต่อมรับรสของคุณจะปรับตัวเข้ากับรสชาตินั้น และนั่นคือจุดที่คุณต้องเพิ่มเกลือในอาหาร
5. ปวดศีรษะเรื้อรังปวดหัวเล็กน้อยบ่อยๆ
- เชื่อมโยง: ความดันโลหิตสูงจากโซเดียมกระตุ้นให้ปวดศีรษะแบบตื้อๆ
คุณมีอาการปวดหัวเล็กน้อยเป็นระยะๆ หรือไม่? โอกาสที่อาการปวดหัวเหล่านี้เกิดจากการคายน้ำ การบริโภคเกลือมากเกินไปจะทำให้คุณปวดหัวในช่วงเวลาสั้นๆ เนื่องจากการคายน้ำ ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อเอาชนะอาการปวดหัวเหล่านี้
6. คุณกระหายอาหารรสเค็ม
เมื่อต่อมรับรสของคุณปรับให้เข้ากับรสเค็ม มันก็โหยหาเหมือนเดิมครั้งแล้วครั้งเล่าปรุงรสโดยไม่ต้องชิม คุณรู้สึกว่าจำเป็นต้องกินถั่วลิสงเค็ม มันฝรั่งทอด และขนมรสเค็มอื่นๆ
7.ความดันโลหิตสูง (Hypertension)
- สาเหตุหลัก: เกลือทำให้หลอดเลือดหดตัว หัวใจทำงานหนัก
- อันตราย: เพิ่มความเสี่ยงหัวใจวายและเส้นเลือดในสมองแตก
8.อิเล็กโทรไลต์ไม่สมดุล
- ผลกระทบ: เกลือมากเกินทำให้โพแทสเซียมและแมกนีเซียมในร่างกายลดลง
- อาการ: เป็นตะคริว ใจสั่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง
9.นอนไม่หลับ
- กลไก: โซเดียมกระตุ้นระบบประสาทสมอง รบกวนการนอนหลับลึก
กลไก: โซเดียมกระตุ้นระบบประสาทสมอง รบกวนการนอนหลับลึก
10.ไตทำงานผิดปกติ
- อาการเริ่มต้น: ปวดหลังส่วนล่าง อ่อนเพลีย
- ระยะยาว: เสี่ยงเป็นโรคไตเรื้อรังหรือไตวาย
วิธีลดโซเดียมในร่างกายแบบเร่งด่วน
1. ดื่มน้ำเปล่า วิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับภาวะบวมเนื่องจากรับประทานเกลือมาก คือการล้างเกลือส่วนเกินออกโดยเติมน้ำในขวดทั้งวัน เพิ่มตัวช่วยรสชาติด้วยการการเติมน้ำล้างสารพิษ เช่น ขิงหรือมะนาวฝานเป็นแว่นจะอร่อย และมีประสิทธิภาพในการช่วยให้คุณรู้สึกดีที่สุด เพื่อช่วยไตขับเกลือส่วนเกิน
2.กินอาหาที่มีโปแตสเซี่ยมสูง:มองหาอาหารที่อุดมด้วยโพแทสเซียม เนื่องจากอิเล็กโทรไลต์นี้จะช่วยให้ไตของคุณขับเกลือส่วนเกินออก หากไม่แน่ใจ ให้นึกถึงผลไม้และผักสดเพราะหลายๆ อย่างมีโพแทสเซียมสูง กล้วย สตรอเบอร์รี่ ผักใบเขียว แตง ผลไม้รสเปรี้ยว ทั้งหมดนี้เป็นแหล่งโพแทสเซียมที่ดีต่อไป อาหารที่มีโพแทสเซียมสูงมีดังนี้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณกินสิ่งเหล่านี้เพื่อช่วยกำจัดอาการบวมอย่างรวดเร็ว
3. หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ไส้กรอก อาหารกระป๋อง
4. อ่านฉลากโภชนาการ เลือกผลิตภัณฑ์ที่ระบุ “โซเดียมต่ำ” (น้อยกว่า 140 มก./หน่วยบริโภค)
5. ปรุงอาหารเอง ใช้สมุนไพรแทนเครื่องปรุง เช่น ขิง ตะไคร้ พริกไทย
6.เคลื่อนไหวอยู่เสมอ:ให้มีการเคลื่อนไหวบ่อยๆเกลือส่วนเกินจะไหลออกมา เพียงแค่ต้องแน่ใจว่ามีน้ำเพียงพอไม่ว่าคุณจะออกกำลังกายนานแค่ไหน
เมื่อไหร่ควรพบแพทย์?
หากมีอาการต่อไปนี้ รีบปรึกษาแพทย์ทันที:
- บวมน้ำรุนแรง หายใจลำบาก
- ความดันโลหิตสูงกว่า 140/90 mmHg
- ปัสสาวะมีเลือดปน หรือปวดแสบขณะปัสสาวะ
ป้องกันโซเดียมเกินด้วย 3 หลักปฏิบัติ
1.จำกัดโซเดียมไม่เกิน 2,000 มก./วัน (เทียบเท่าเกลือ 1 ช้อนชา)
2.ลดการเติมซอส เช่น น้ำปลา ซีอิ๊ว ซอสพริก
3.เลือกทางเลือกสุขภาพ เช่น ใช้เกลือโพแทสเซียมแทนเกลือธรรมดา
คำถามพบบ่อยเกี่ยวกับการกินเค็ม
Q: กินเค็มแค่ไหนถึงอันตราย?
A: องค์การอนามัยโลกแนะนำไม่เกิน วันละ 1 ช้อนชา (5 กรัม) รวมโซเดียมจากทุกแหล่ง
Q: ลดเค็มแล้วอาการบวมจะหายเมื่อไหร่?
A: หากปรับพฤติกรรม อาการบวมมักดีขึ้นภายใน 2-3 วัน
Q: โซเดียมซ่อนอยู่ในอาหารอะไรบ้าง?
A: ไม่เพียงแต่เกลือ แต่พบในผงชูรส ขนมปัง แยม และเครื่องดื่มเกลือแร่
Q: เด็กกินเค็มมากได้ไหม?
A: เด็กควรได้รับโซเดียมน้อยกว่าผู้ใหญ่ เพราะไตยังทำงานไม่เต็มที่
สรุป
การรับประทานเกลือมากเกินไปไม่เพียงทำให้ร่างกายแสดงอาการผิดปกติ แต่ยังเป็นภัยเงียบที่ทำลายสุขภาพระยะยาว! เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการปรับพฤติกรรมการกิน อ่านฉลาก และปรุงอาหารเอง เพื่อป้องกันโรคเรื้อรังก่อนจะสายเกินแก้
