อาการของกลุ่มอาการเนโฟติกเป็นอย่างไร
อาการสำคัญที่ผู้ป่วยเนโฟติกมาพบแพทย์ได้แก่
- อาการบวมหลังเท้า บวมหนังตา และบวมทั้งตัว แรกๆที่อาการไม่มากจะบวมเฉพาะตอนสายๆ แต่เมื่อไข่ขาวรั่วมากขึ้นจะบวมทั้งวัน และหากเป็นมากจะบวมท้องร่วมด้วย
- ปัสสาวะเป็นฟองเนื่องจากมีโปรตีนหรือไข่ขาวในปัสสาวะเป็นปริมาณมาก
- น้ำหนักขึ้น หรือรองเท้าคับ หรือคับเอวจนใส่กางเกงไม่ได้ เนื่องจากมีการคั่งของน้ำในร่างกาย
การวินิจฉัยกลุ่มอาการเนโฟติกทำอย่างไร
หากท่านไปพบแพทย์ด้วยอาการบวมเท้า แพทย์สงสัยว่าท่านจะเป็นกลุ่มโรคเนโฟติก แพทย์จะตรวจดังต่อไปนี้
- การตรวจปัสสาวะ Urine tests.โดยเน้นการตรวจหาโปรตีนในปัสสาวะ เซลล์เม็ดเลือดแดง ตะกอนต่างๆ และหากพบว่ามีโปรตีนหรือไข่ขาวแพทย์จะแนะนำให้ท่านเก็บปัสสาวะตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อหาค่าโปรตีนหรือไข่ขาวในปัสสาวะ
- การเจาะเลือดตรวจ Blood tests.แพทย์จะตรวจหาโปรตีนในเลือดซึ่งหากสูญเสียทางปัสสาวะมากก็จะมีระดับโปรตีนในเลือดต่ำ นอกจากนั้นจะตรวจหาระดับไขมัน Cholesterol,Triglyceride ซึ่งจะมีค่าสูง และตรวจหาค่า Creatinine ซึ่งจะบอกการทำงานของไต
- การเจาะเอาเนื้อไตไปส่องกล้องตรวจเรียกว่า kidney biopsyโดยการใช้เข็มเจาะเอาชิ้นเนื้อไตเพื่อไปส่องกล้อง
การรักษากลุ่มอาการเนโฟติก
การรักษาโรคเนโฟติกจะต้องรักษาสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคเช่นโรค SLE จึงจะทำให้ควบคุมโรคได้ นอกจากนั้นแพทย์จะจ่ายยาเพื่อลดอาการหรือยาที่รักษาโรคแทรกซ้อนยาที่แพทย์มักจะจ่ายได้แก่
- ยาลดความดันโลหิต AceI( angiotensin-converting enzyme inhibitors)และยา ARB จะลดความดันโลหิตและลดปริมาณไข่ขาวในปัสสาวะ.
- ยาขับปัสสาวะ เนื่องจากโรคเนโฟติกจะมีการคั่งของน้ำและเกลือจึงต้องให้ยาขับทั้งน้ำและเกลือส่วนเกินออกจากร่างกาย
- ยาลดไขมัน ได้แกกลุ่มยา statinsซึ่งจะลดไขมันได้ดียาในกลุ่มนี้ได้แก่ atorvastatin , fluvastatin , lovastatin, pravastatin, rosuvastatin และ simvastatin
- ยาละลายลิ่มเลือด เนื่องจากผู้ป่วยกลุ่มโรคเนโฟติกจะเกิดลิ่มเลือดได้บ่อยจึงอาจจะจำเป็นต้องให้ยาละลายลิ่มเลือด
- ยากดภูมิคุ้มกัน เนื่องจากโรคในกลุ่มนี้มักจะมีการอักเสบของไต การให้ยาลดการอักเสบจะทำให้ควบคุมโรคได้ดีขึ้น เช่นยา Steroid
- ยาปฏิชีวนะสำหรับควบคุมโรคติดเชื้อ
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
เนื่องจากกลุ่มโรคเนฟโฟติกจะมีการเปลี่ยนแปลงระดับไขมัน และมีการเพิ่มของปริมาณน้ำและเกลือแร่ จึงจำเป็นที่จะปรับพฤติกรรมในการดำรงชีวิตเพื่อควบคุมอาการสิ่งที่ต้องกระทำมีดังต่อไปนี้
- เนื่องจากกลุ่มโรคนี้มีระดับไขมันในเลือดสูง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องลดปริมาณในอาหารลงโดยเฉพาะไขมันอิ่มตัวอ่านที่นี่
- เนื่องจากมีการเพิ่มขึ้นของเกลือและน้ำทำให้มีอาการบวมดังนั้นจึงจำเป็นต้องลดอาหารเค็ม low salt
- รับประทานอาหารที่มีแคลเซี่ยม
โรคแทรกซ้อนที่สำคัญ
- เลือดแข็งตัวง่ายเนื่องจากร่างกายสูญเสียส่วนประกอบที่ป้องกันการแข็งตัวของเลือดทางปัสสาวะ
- ไขมันในเลือดจะสูง
- ขาดสารอาหารเนื่องจากสูญเสียสารอาหารทางปัสสาวะ
- ความดันโลหิตสูง เนื่องจากมีการคั่งของของเสีย
- ไตวายเฉียบพลันเนื่องจากมีการคั่งของของเสียอย่างเฉียบพลัน
- ไตวายเรื้อรังเนื่องจากมีการสูญเสียเนื้อไตที่ละน้อยจนทำให้เกิดไตวาย
- เกิดากรติดเชื้อได้ง่าย
คำถามที่ท่านต้องการคำตอบจากแพทย์
เมื่อท่านได้พบแพทย์แล้วท่านต้องตอบคำถามเหล่านี้ได้ซึ่งจะทำให้ทานสามารถเข้าใจโรคและวางแผนการดำเนินชีวิต
- สาเหตุที่ทำให้เกิดโรค nephrotic syndrome
- จะต้องตรวจอะไรบ้าง
- เป็นโรคนี้จะเป็นโรคเรื้อรังหรือไม่ และจะกลายเป็นโรคไตวายหรือไม่
- เป็นโรค nephrotic syndrome รักษาได้หรือไม่
- การรักษาโรคนี้มีกี่วิธี
- การรักษาแต่ละอย่างมีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง
- การรักษาที่ดีที่สุดในขณะนี้คืออะไร
- จะต้องปรับการรับประทานอาหารอะไรบ้าง
- จะต้องพบนักโภชนาการหรือไม่
- หากมีความดันโลหิตสูง หรือไขมันในเลือดสูงจะต้องดูแลอย่างไรบ้าง
- มีข้อห้ามหรือข้อจำกัดอะไรบ้าง
- จะต้องพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือไม่
กลับหน้าแรก
โรคไตเรื้อรัง โรคไต ไข่ขาวในปัสสาวะ