ยาลดความดันโลหิต Nifedipine
Nifedipine
สำหรับผู้ที่ใช้ยาชนิดนี้หากเกิดอาการดังต่อไปนี้ให้หยุดยาและพบแพทย์
- อาการเจ็บหน้าอกแย่ลงกล่าวคือ เจ็บนานขึ้น เจ็บรุนแรงขึ้น หรือเจ็บง่ายขึ้นอย่างใดอย่างหนึ่ง
- มีอาการหน้ามือเป็นลมบ่อย
- เหนื่อยง่าย มือเท้าบวม
- ใจสั่นหัวใจเต้นเร็ว
- ชาปลายมือปลายเท้า
- ตัวเหลือง ตาเหลือง ปัสสาวะเข้ม
- เจ็บหน้าอกร้าวไปแขนหรือคอ
ข้อบ่งชี้ในการใช้ยาลดความดันโลหิต Nifedipine
- อาการเจ็บหน้าเนื่องจากเกร็งตัวของหลอดเลือดหัวใจ Vasospastic Angina
โดยจะต้องมีเหตุสนับสนุน 3 ประการ
- มีอาการเจ็บหน้าอกขณะพักร่วมกับการเปลี่ยนแปลงของคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
- อาการเจ็บหน้าอกหรือการเปลี่ยนแปลงของคลื่นไฟฟ้าเกิดจากการกระตุ้นด้วยยา ergotamine
- ฉีดสีแล้วพบว่าหลอดเลือดเลี้ยงหัวใจมีการหดเกร็ง
- อาการเจ็บหน้าอกจากหลอดเลือดหัวใจตีบโดยที่ได้รับยา beta blocker และยาอื่นแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น
- ยานี้ใช้เพื่อรักษาโรคความดันโลหิตสูง
ขนาดยาลดความดันโลหิต Nifedipine ที่ใช้
ขนาดของยาที่ใช้จะต้องมีการปรับขนาดของยาทุก 7-14 วันเพื่อให้สามารถควบคุมอาการของโรค โดยเริ่มต้นด้วยขนาด 10 มิลิกรัมให้รับประทานวันละ 3 ครั้ง ชนาดที่ควบคุมโรคได้อยู่ประมาณ10-20 มิลิกรัมวันละ 3-4 ครั้ง โดยมากมักจะไม่เกิน 120 มิลิกรับต่อวัน
ระหว่างที่รับประทานยานี้ไม่ควรจะดื่มน้ำองุ่นมากเกินไป
วิธีการใช้ยาลดความดันโลหิต Nifedipine
- ควรรับประทานยาขณะท้องว่างก่อนอาหารหนึ่งชั่วโมงหรือสองชั่วโมงหลังอาหาร ให้กลืนทั้งเม็ด ไม่ควรเคี้ยว แบ่งยาหรือบดยา
- ยานี้อยูในรูปแบบยาเม็ด ใช้สำหรับรับประทาน
- โดยทั่วไปรับประทานวันละ 1-3 ครั้ง ขึ้นกับโรคที่เป็นและรูปแบบของยาที่ใช้ โดยทั่วไปรับประทานวันละ 3 ครั้ง หรือให้รับประทานยานี้ตามวิธีใช้ที่ระบุบนฉลากยาอย่างเคร่งครัด
- โดยห้ามใช้ยาในขนาดที่มากหรือน้อยกว่าที่ระบุ และหากมีข้อสงสัยให้สอบถามแพทย์หรือเภสัชกร
- รับประทานยาให้ตรงเวลาทุกครั้ง
- ห้ามหยุดใช้ยาด้วยตัวเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ผู้รักษาก่อน
- ยารูปแบบออกฤทธิ์นานให้รับประทานเวลาเดียวกันทุกวัน ต้องรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้การรักษาได้ผลดี ยานี้มีขายในรูปแคปซูลขนาด 5 และ 10 มก. ยาเม็ดออกฤทธิ์นาน (Retard) 20 มก. ยาเม็ดควบคุมการปลดปล่อยตัวยา (CR) 30 และ 60 ,d.
- การรับประทานน้ำองุ่นมากจะทำให้ระดับยาสูงอาจจะทำให้เกิดอาการหน้ามืด
ผลข้างเคียงของยาลดความดันโลหิต Nifedipine
ผลข้างเคียงที่พบได้ประมาณร้อยละ 10 ของผู้ที่ใช้ยานี้ได้แก่
- มีอาการบวมเท้า กดจะมีรอยบุ๋ม ไม่มีอาการเหนื่อยหอบ
- มึนงง รู้สึกเบหวิว
- คลื่นไส้อาเจียน
- ปวดศีรษะ หน้าแดง อ่อนเพลีย
ผลข้างเคียงพบได้ร้อยละ 5 ของผู้ใช้
- ความดันโลหิตต่ำ ผู้ที่รับประทานยานี้หากจะเปลี่ยอริยาบทอย่างรวดเร็วอาจจะทำให้เกิดอาการหน้ามืด
ผลข้างเคียงพบน้อยกว่าร้อยละ 2 ของผู้ใช้ได้แก่
- ใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว
- คัดจมูกและแน่นหน้าอก
- แน่นท้อง ท้องร่วง ท้องผูก
- ตะคริว ปวดกล้ามเนื้อ
- หงุดหงิด มีปัญหาเรื่องการนอนหลับ ตามัว
- คันตามตัว ผิวหนังอักเสบ ลมพิษ ไข้
ผลข้างเคียงพบได้ร้อยละ 0.5 ได้แก่
- หน้ามืดโดยมากมักจะเกิดเมื่อรับประทานยาครั้งแรก
ผลข้างเคียงน้อยกว่า 0.5 ได้แก่
- โรคระบบโลหิตได้แก่ เกล็ดเลือดต่ำ ซีด เม็ดเลือดขาวต่ำ
- ตับอักเสบจากแพ้ยา
- บวบคอ ริมฝีปากเนื่องจากแพ้ยา
- ซึมเศร้า วิตกกังวล
- เสียงดังในหู
- ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะกลางคืน
- ปวดกล้ามเนื้อ
ข้อควรระวังสำหรับการใช้ยา Nifedipine
ความดันโลหิตต่ำ
ยานี้อาจจะทำให้ความดันโลหิตต่ำแต่ไม่มาก แต่อาจจะเกิดความดันโลหิตต่ำมากในภาวะ
- ได้รับยานี้ครั้งแรก
- มีการปรับขนาดของยาเพิ่มขึ้น
- ใช้ยานี้ร่วมกับยาลดความดันโลหิตชนิดอื่น
ดังนั้นจะต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
เจ็บหน้าอกจากล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
ยานี้อาจจะทำให้อาการเจ็บหน้าอกนานขึ้น ถี่ขึ้น หรืออาจจะกลายเป็นกล้ามเนื้อหัวใจตาย โดยเฉพาะ
- ผู้ป่วยที่หลอดเลือดหัวใจตีบอย่างมาก
ดังนั้นไม่แนะนำให้ยานี้ในผู้ป่วยที่มีกล้ามเนื้อหัวใจตายจากขาดเลือดภายใน 2 สัปดาห์
การใช้ลดความดันโลหิตสูง
ยา nifedipine ชนิดแคปซูลที่ออกฤทธ์เร็วจะไม่ใช้เพื่อควบคุมความดันโลหิตสูงและไม่ใช้อมใต้ลิ้นรักษาความดันแบบฉุกเฉิน
ข้อควรระวังการใช้ ยาลดความดันโลหิต Nifedipine
- ควรบอกแพทย์หากตั้งครรภ์หรืออยู่ในระยะให้นมบุตร
- ใช้ยาอะไรอยู่บ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งยากลุ่มต้านเบต้า (atenolol, carteolol, metoprolol, propranolol เป็นต้น)
- ยารักษาโรคหัวใจ digoxin ยาต้านชัก phenytoin และยาลดความดันโลหิตอื่น ๆ
- หัวใจเต้นช้าหรือเต้นผิดจังหวะ
- ประวัติความผิดปกติของการทำงานของตับ ไต หัวใจ ความดันโลหิตต่ำ
- หากต้องเข้ารับการผ่าตัดหรือทำฟัน ต้องแจ้งให้แพทย์หรือทันตแพทย์ทราบก่อนทำการรักษา
ความปลอดภัยของยานี้ในสตรีมีครรภ์
สำหรับสตรีมีครรภ์ ยานี้จัดอยู่ในประเภท C
ทำอย่างไรหากลืมรับประทานยาหรือใช้ยา
- โดยทั่วไปถ้าลืมรับประทานยา ให้รับประทานยาทันทีที่นึกได้ แต่ถ้าเป็นเวลาที่ใกล้กับมื้อต่อไป ให้ข้ามไปรับประทานยามื้อต่อไปเลยโดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็นสองเท่า
อาการอันไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา
- อาการอันไม่พึงประสงค์ที่ต้องแจ้งแพทย์ทันทีได้แก่ ปัสสาวะมีเลือดปน ใจสั่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือ เจ็บหน้าอก เกิดอาการปวดเค้นหน้าอกบ่อยขึ้นและมีความรุนแรงมากขึ้น หายใจลำบาก วิงเวียน รู้สึกเหมือนจะหมดสติ ปริมาณปัสสาวะลดลง ผื่นคัน ผิวหนังบางลง ลอก บวมพอง แดง ซึ่งรวมถึงเนื้อเยื่ออ่อนภายในช่องปาก บวมบริเวณใบหน้า ตา ริมฝีปาก ลิ้น แขน ขาหรือข้อเท้า กลืนอาหารลำบาก ตาหรือตัวเหลือง
- อาการอันไม่พึงประสงค์อื่นที่ต้องแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบ หน้าแดง ร้อนวูบวาบ ปวดศีรษะ เหนื่อย อ่อนเพลียมากกว่าปกติ ไม่สบายท้อง หรือมีอาการแสบร้อนกลางอก (heartburn) เหงือกบวม ไอ ตะคริว ท้องผูก
Nifedipine | Amlodipine | Felodipine | Nicardipine | Nimodipine | Diltiazem |