โรคลมพิษ Urticaria
โรคลมพิษเป็นโรคที่พบผิวหนังจะมีลักษณะเป็นผื่นแดง นูน ขอบเขตชัดเจนและมีอาการคัน โรคลมพิษจะแบ่งเป็นลมพิษเรื้อรังคือมีอาการหกสัปดาห์ขึ้นไป ส่วนที่มีอาการน้อยกว่าหกสัปดาห์ถือเป็นลมพิษปัจจุบัน โรคลมพิษเป็นโรคที่เกิดจากภูมิแพ้ทำให้เกิดผื่นขึ้นตามผิวหนัง โรคลมพิษมีอาการตั้งแต่เป็นลมพิษมีผื่นเพียงเล็กน้อย หรือเป็นโรคลมพิษรุนแรงถึงกับเสียชีวิต
อาการโรคลมพิษ
ประวัตการป่วยด้วยลมพิษที่ต้องทราบคือ เคยเป็นมาก่อนเมื่อไร ระยะเวลาที่ผื่นหายไป ประวัติที่ต้องทราบ
- ปัจจัยที่ทำให้เกิดผื่น เช่น ความร้อน ความเย็น บริเวณที่กดทับเช่น ขอบชุดชั้นใน การออกกำลังกาย ความเครียด การใช้ยา
- โรคประจำตัว เช่นโรคเบาหวาน โรคไต โรคตับ โรคอื่นๆ
- ประวัติการเจ็บป่วยในครอบครัว โดยเฉพาะประวัติการแพ้รุนแรง
การจำแนกชนิดชนิดของลมพิษ
แบ่งการจำแนกชนิดชนิดของลมพิษแบ่งออกเป็น
- การจำแนกตามเวลาเกิด
- การจำแนกตามสาเหตุ
การจำแนกตามเวลาเกิด
โรคลมพิษแบ่งออกเป็นสองชนิด ได้แก่
1ลมพิษชนิดเกิดปัจจุบัน Acute urticaria
เกิดอาการลมพิษ หลังจากได้รับสารที่ก่อภูมิแพ้ ผื่นมักจะหายภายใน 24 ชัวโมง หรืออาจจะมีภาวะแทรกซ้อนรุนแรงที่เรียกว่า angioedema หรืออาจจะเกิดภาวะ anaphylactic shock แต่บางคนผื่นอาจจะอยู่ได้นาน 2-3 วัน สารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ได้แก่ อาหาร ยา อากาศ การติดเชื้อไวรัส
Allergy testing may be needed to find out if you're allergic to suspected triggers for urticaria.
2ลมพิษเรื้อรัง Chronic urticaria
เป็นลมพิษที่เป็นเรื้อรังนานเกิน 6 สัปดาห์
สาเหตุอาจจะเกิดจากการได้รับสารที่แพ้อย่างต่อเนื่องเช่น ได้รับยาปฏิชีวนะในน้ำนม สารถนอมอาหาร สี สารปรุงรส
สำหรับลมพิษที่เกิดน้อยกว่า6 สัปดาห์จะต้องหาสาเหตุที่กระตุ้นทำให้เกิดโรคได้แก
- ประวัติการเจ็บป่วยก่อนหน้านี้
- ประวัติการใช้ยาทั้งซื้อรับประทานเอง หรือแพทย์สั่ง รวมทั้งสมุนไพร
- การฉีดสีเพื่อวินิจฉัย
- การท่องเที่ยว
- อาหาร
- น้ำหอม ยาย้อมผม ผงซักฟอก ครีม เสื้อผ้า
- การสัมผัสสัตว์เลี้ยงใหม่ ฝุ่น ไรฝุ่น ต้นไม้ เกษรดอกไม้
- การตั้งครรภ์
- สัมผัสยาง สารเคมี กำไร ต่างหู โลหะ
- แสงอาทิตย์ อากาศหนาว
- การออกกำลังกาย
- การดื่มสุรา
จำแนกตามเสเหตุการเกิดลมพิษ
ประเภทของลมพิษเรื้อรังทางกายภาพ (ลมพิษทางกายภาพ)
- Dermographismเป็นรูปแบบหนึ่งของลมพิษเรื้อรังที่ถูกกระตุ้นโดยการเสียดสีของผิวหนัง เช่น การถู การเกา หรือการกดทับ นี่เป็นรูปแบบที่พบบ่อยที่สุดของ CIndU
- ลมพิษที่เกิดจากความดันล่าช้าคือลมพิษเรื้อรังที่เกิดจากแรงกดบนผิวหนังอย่างต่อเนื่อง อาการอาจปรากฏหลังการสัมผัส 4-6 ชั่วโมง
- ลมพิษที่เกิดจากการออกกำลังกายคือลมพิษเรื้อรังที่เกิดจากการออกกำลังกายหรือการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง
- ลมพิษเย็นคือลมพิษเรื้อรังที่เกิดจากการสัมผัสผิวหนังกับน้ำเย็นหรือน้ำเย็น โดยทั่วไปแล้วจะจำกัดอยู่เพียงผิวที่สัมผัสเท่านั้น
- ลมพิษจากความร้อนเป็นโรคลมพิษเรื้อรังที่เกิดจากการสัมผัสความร้อน
- ลมพิษจากแสงอาทิตย์หรือลมพิษสุริยะ เป็นโรคลมพิษเรื้อรังที่เกิดจากแสงแดดและรังสียูวี
- ลมพิษแบบสั่นสะเทือนคือลมพิษเรื้อรังที่เกิดจากการสั่นสะเทือน
ประเภทของลมพิษเรื้อรังที่ไม่ใช่ทางกายภาพ (ลมพิษที่ไม่ใช่ทางกายภาพ)
- อาการลมพิษของ Cholinergicเป็นโรคลมพิษเรื้อรังที่เกิดจากร่างกายร้อนขึ้นหรือเหงื่อออกมากเกินไป
- ลมพิษสัมผัสคือลมพิษเรื้อรังที่เกิดจากการสัมผัสทางผิวหนังจากสารภายนอก
- ลมพิษที่เกิดจากน้ำ เป็นลมพิษเรื้อรังที่เกิดจากการสัมผัสน้ำโดยตรง
หากเกิดอาการลมพิษจะต้องตรวจหาโรคร่วมและความรุนแรงของโรค
- หากหนังตาบวม ริมฝีปากหน้า หากใจลำบากแสดงว่าเป็นลทพิษชนิดรุนแรงที่เรียกว่า Agioedema ซึ่งเป็นภาวะเร่งด่วน
- ผื่นลมพิษปกติจะไม่เจ็บและมักจะจางลงใน 24 ชั่วโมง แต่หากผื่นลมพิษมีอาการเจ็บ ผื่นจางลงช้า และมีผื่นหายมีร่องรอยดำๆบริเวณผื่นให้สงสัยว่าผื่นนั้นเกิดจากหลอดเลือดอักเสบ urticarial vasculitis
- มีอาการไข้อ่อนเพลียครั่นเนื้อครั่นตัว
- มีตัวเหลือง ตาเหลือง ตับโตหรือไม่
- ต่อมไทรอยด์โต
- ปอดบวมหรือไม่
- ผิวหนังมีการติดเชื้อราหรือไม่
การวินิจฉัยโรคลมพิษ
การวินิจฉัยจะต้องอาศัยประวัติการเจ็บป่วย
- ผื่นเกิดเมื่อไร ผื่นเกิดบริเวณไหนก่อน
- สถานที่เกิดผื่น
- ก่อนเกิดผื่นได้มีกิจกรรมอะไรบ้างเช่น การรับประทานอาหาร ยา การออกกำลังกาย
- ประวัติการรับประทานยาชนิดใหม่
- มีการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมบ้างไหม เช่น ต้นไม้ สัตว์เลี้ยง สารเคมี
- แมลงกัดต่อย
- ก่อนหน้านี้มีอาการเจ็บป่วยด้วยโรคหรือภาวะอะไรบ้าง
- การเดินทางท่องเที่ยวก่อนการเกิดผื่น
- มีประวัติลมพิษในครอบครัวหรือไม่
การวินิจฉัยอาศัยประวัติการเจ็บป่วยและการตรวจร่างกาย
การตรวจวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการ
การตรวจร่างกาย
นอกจากแพทย์จะตรวจลักษณะผื่นแล้วแพทย์ยังต้องตรวจ อาการแสดงของโรคร่วม โรคแทรกซ้อน
- ตรวจหาหลักฐานว่าเป็นโรคแทรกซ้อนที่รุนแรงหรือไม่ เช่น มีอาการบวมของหนังตา ริมฝีปาก หายใจลำบากไหม Angioedema
- ตรวจผื่นลมพิษว่ามีอาการกดเจ็บไหม ใช้เวลาหายนานกีวัน มีเลือดออกในผื่นไหม
- ตรวจร่างกายทั่วไป ไข้ ปวดข้อ ข้ออักเสบ การเปลี่ยนแปลงขอน้ำหนัก ปวดกระดูก ต่อมน้ำเหลืองโต
- ตัวเหลืองตาเหลือง ตับโต
- ต่อมไทรอยด์โตหรือไม่
- มีอาการหลอดลมหดเกร็งหรือไม่
- ผิวหนังมีการติดเชื้อหรือไม่
สำหรับผู้ที่เป็นลมพิษเกิน 6 สัปดาห์ มักจะไม่ใช่เกิดจากโรคภูมิแพ้ดังนั้นจึงไม่ต้องมีการทดสอบภูมิแพ้ ผู้ป่วยกลุ่มนี้จึงจำเป็นต้องตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม
- ประวัติการรับประทานยา
- ประวัติการดื่มสุรา และกาแฟ
- ความเครียด
- มีการตรวจ CBC
- ตรวจเลือดหาภูมิ
- ตรวจการทำงานของต่อมไทรอยด์
สาเหตุของลมพิษปัจจุบัน
- ยา ที่จริงแล้วยาทุกชนิดมีโอกาศที่จะทำให้เกิดลมพิษได้ทั้งสิ้น แต่ชนิดที่มักจะสาเหตุได้บ่อยได้แก่ ยาปฏิชีวนะ ยาแก้ปวด ยาคลายเครียด และยาระงับประสาท การสืบค้นว่ายาชนิดไหนเป็นสาเหตุของลมพิษต้องอาศัยความร่วมมือทั้งผู้ป่วยและแพทย์ มียาบางชนิดที่ผู้ป่วยอาจจะนึกไม่ถึงว่าเป็นสาเหตุของลมพิษ ได้แก่วิตามิน ยาถ่าย ยาระบาย ยาหยอดหู ยาหยอดตา ยาลูกกลอน หรือยาแผนโบราณชนิดต่างๆที่ผู้ป่วยอาจจะซื้อยารับประทานเองก็ได้ เช่นpenicillins, sulfonamides, NSAIDs, codeine tetracyclin barbiturates codiene quinine phenylbutazone
streptomycin chloramphenicol griseofluvin inh nitrfurantoin ,
- แมลงต่อย เช่น ผึ้ง มด ต่อ
- อาหาร การเกิดลมพิษอาจจะเกิดจากการแพ้อาหาร หรือสิ่งอื่นที่ผสมในอาหาร เช่นสารแต่งกลิ่นรส สีผสมอาหาร สารกันบูด หรือสิ่งปนเปื้อนอื่นๆ ผื่นอาจจะเกิดขึ้นภายในเวลาเป็นนาที หรือชัวโมงหลังจากรับประทานอาหารที่มีรายงานว่าทำให้เกิดลมพิษขึ้นได้แก่ ถั่ว ไข่ นม ชอคโคแลต มะเขือเทศ และผลไม้สดบางชนิด หากสงสัยว่าแพ้อาหาร ผู้ป่วยจะต้องจดชนิดของอาหารที่รับประทานทุกมื้อในแต่ละวัน เพื่อนำมาพิจารณาว่าเมื่อรับประทานอาหารชนิดใดแล้วกิดผื่นมาบ้าง และอาจจะลองหยุดรับประทานอาหารที่สงสัยดูว่าผื่นลมพิษหายไปหรือไม่
- การติดเชื้อ โรคที่เป็นสาเหตุลมพิษได้บ่อยคือการเป็นหวัด การติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนต้น เช่นจมูกอักเสบ ทอนซิลอักเสบ ไซนัสอักเสบ เป็นต้น นอกจากนี้การอักเสบเฉพาะที่เช่น ฟันผุ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ การติดเชื้อช่องคลอดสตรี หรือการมีพยาธิ์ในลำไส้ เป็นต้น ซึ่งแพทย์จะทำการหาการอักเสบติดเชื้อเหล่านี้ และให้การรักษา
- ความเครียด
- เกิดบริเวณกดทับเช่นขอบกางเกง ขอบเสื้อใน เจออากาศเย็น หรือร้อน
- การออกกำลังกาย
- การตั้งครรภ์
- Sun or cold exposure
สาเหตุของลมพิษเรื้อรัง
สาเหตุเหมือนกับโรคลมพิษปัจจุบันและมีสาเหตุอิ่นๆเช่น
- โรคแพ้ภูมิตัวเอง เช่น (SLE, rheumatoid arthritis, polymyositis, thyroid autoimmunity
- ความเครียด อากาศร้อน การออกกำลังกาย
ท่านจะทราบสาเหตุของลมพิษได้อย่างไร
- ท่านแพ้ยาหรือไม่หากท่านรับประทานยาที่แพ้ก็จะทำให้เกิดผื่นลมพิษ
- อาหาร ท่านอาจจะแพ้อาหารที่รับประทานก็ได้
อาหารที่แพ้บ่อยคือ ถั่ว อาหารทะเล สี ยีสต์
- จากทางหายใจ เช่นเกษรดอกไม้
ควันธูป ยาฆ่าแมลง
- ท่านมีไข้หรือไม่ หากมีไข้ผื่นที่เกิดอาจจะมาจากการติดเชื้อ
เช่นไข้หวัด ปอดบวม พยาธิ์
- แมลงกัดหรือต่อยหรือไม่
- ท่านมีโรคประจำตัวหรือไม่
SLE ไทรอยด์
- รับประทานยา aspirin อยู่หรือไม่
- สภาวะแวดล้อม เช่น ความร้อน
ความเย็น แรงกดรัด แสง
การรักษา