แพ้อากาศ
อาการแพ้อากาศหมายถึงการที่เยื่อบุจมูกอักเสบและบวมทำให้เกิดอาการดังนี้
จาม คัดจมูก คันจมูก น้ำมูกไหล นอกจากนั้นอาจจะมีอาการทางเยื่อบุตาอักเสบ ไซนัสอักเสบ
หรือคออักเสบ สำหรับสาเหตุของเยื่อบุจมูกอักเสบพบว่าเกิดจากโรคภูมิแพ้เป็นส่วนใหญ่
สาเหตุของเยื่อบุจมูกอักเสบอาจจะเกิดจากภูมิแพ้ หรือมิใช่ภูมิแพ้ก็ได้
กลไกการเกิดโรค
เมื่อร่างกายได้รับสารภูมิแพ้ ซึ่งจะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิชนิด
IgE ภูมินี้จะไปกระตุ้น Mast cell (เป็นเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่ง) ทำให้ร่างกายมีการหลั่งสารเคมีหลายชนิด
เช่น histamin,prostaglandin สารเหล่านี้ทำให้เกิดอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล
ผลของโรคภูมิแพ้
โรคที่เกิดจากโรคภูมิแพ้ |
แม้ว่าโรคนี้จะไม่ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต
แต่หากเกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้แบบรุนแรงอาจจะทำให้เกิด anaphylaxis นอกจากนั้นเราอาจจะพบโรคร่วมเช่น
ไซนัสอักเสบ โรคหอบหืด หูชั้นกลางอักเสบ ผิวหนังอักเสบ
- มีโรคแทรกซ้อน ซึ่งอาจจะทำให้เกิดผู้ป่วยมีอาการมากขึ้น
เช่น โรคไซนัสอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ เพราะฉนั้นหากมีอาการคัดจมูกเรื้อรัง ต้องระวังโรคแทรกซ้อนเหล่านี้
- โรคภูมิแพ้อาจจะมีโรคร่วมเช่น โรคหอบหืด ผิวหนังอักเสบ polyp
หากไม่รักษาโรคภูมิแพ้จะทำให้โรคร่วมเหล่านี้ไม่หาย
- โรคภูมิแพ้อาจจะทำให้คุณภาพชีวิตเสียไปเช่นง่วงซึมจากยา ขาดเรียน
เป็นต้น
จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นโรคภูมิแพ้
- อาการของโรคภูมิแพ้
- อาการที่เริ่มเป็นโรคภูมิแพ้ ส่วนใหญ่มักจะเริ่มเกิดเมื่ออายุ
20 ปีแต่ก็มีผู้ป่วยที่เริ่มเป็นตั้งแต่อายุน้อย และเป็นต่อเนื่องจนวัยหนุ่ม
- อาการภูมิแพ้เป็นทั้งปี( perennial rhinitis )หรือเป็นเฉพาะฤดู(
seasonal rhinitis ) หรืออาจจะเป็นทั้งสองแบบผสมกัน อาการภูมิแพ้เป็นทั้งวัน
หรือเป็นเฉพาะเจอเหตุการณ์ที่พิเศษ การเป็นคนช่างสังเกตจะช่วยให้ช่วยในการวินิจฉัยโรค
- เมื่อเวลาเป็นภูมิแพ้มีอาการที่อวัยวะไหนบ้าง ส่วนใหญ่จะมีอาการคันจมูก
คัดจมูก น้ำมูกไหล จาม แต่บางคนจะมีอาการเคืองตา น้ำตาไหล
- ปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดอาการภูมิแพ้
- ทราบปัจจัยกระตุ้นอาการภูมิแพ้หรือไม่ เช่นเมื่อเจอฝุ่น หรือเกิดอาการเมื่อจุดธูป
หรือแพ้ขนสัตว์ หากสิ่งที่สงสัยว่าจะเป็นภูมิแพ้แล้วเกิดอาการแสดงว่าแพ้สิ่งนั้น
- อาการภูมิแพ้อาจจะเป็นมากขึ้นหากสัมผัสสารระคายเคืองเช่น ควันบุหรี่
กลิ่นสี กลิ่นแรงๆ
- ผู้ที่เป็นภูมิแพ้ตลอดปีมักจะแพ้ ไรฝุ่น หรือแพ้ขนสัตว์
- การตอบสนองต่อการรักษา
- หากตอบสนองการรักษาด้วยยาแก้แพ้ antihistamine ได้ผลดีก็จะช่วยในการวินิจฉัย
แต่ผู้ป่วยที่คัดจมูกโดยที่ไม่ใช่โรคภูมิแพ้ก็ตอบสนองต่อยาแก้แพ้
- หากตอบสนองต่อยาพ่นจมูก steroid แสดงว่าเกิดจากภูมิแพ้
- หาโรคร่วม
- ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้มักจะมีโรคร่วม เช่นผิวหนังอักเสบ โรคหอบหืด หากไม่ควบคุมอาการภูมิแพ้จะทำให้โรคหอบหืดหรือโรคผิวหนังกำเริบ
- ค้นหาโรคแทรกซ้อน เช่นไซนัสอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ โรคนอนกรน
ฟันกร่อนเนื่องจากนอนกัดฟัน ริดสีดวงจมูก (nasal polyp)
- มีโรคหลายโรคที่ทำให้เกิดอาการแพ้ เช่น ต่อมไทรอยด์ทำงานน้อย
- ประวัติภูมิแพ้ในครอบครัว
- ผู้ที่มีพ่อแม่เป็นโรคภูมิแพ้ ก็มีโอกาศเป็นโรคภูมิแพ้สูง
- ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ อาจจะไม่มีประวัติภูมิแพ้ในครอบครัว
เนื่องจากอาจจะมีปัจจัยอย่างอื่น
- สิ่งแวดล้อม
- ให้สังเกตสิ่งแวดล้อมที่จะทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ทั้งปี เช่นปัจจัยที่ทำให้เกิดไรฝุ่น รา สัตว์เลี้ยง ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดภูมิแพ้เช่น อาชีพเกี่ยวกับพรม ความร้อน ความชื้น
- สิ่งแวดล้อมในที่ทำงานหรือโรงเรียนที่อาจจะทำให้เกิดภูมิแพ้เช่น การทำงานเกี่ยวข้องกับสัตว์ ความชื้น เกสรดอกไม้เป็นต้น
คนที่เป็นภูมิแพ้จะมีลักษณะอย่างไร
ผู้ที่เป็นภูมิแพ้จะมีขอบตาดำเนื่องจากการขยายของเส้นเลือดรอบดวงตา |
|
เนื่องจากจะคันจมูกบ่อย ผู้ป่วยจะขยี้จมูกทำให้เกิดรอยขวางส่วนปลายจมูก |
|
- เมื่อส่องดูรูจมูกจะพบว่าเยื่อจมูกบวมสีแดง บางคนอาจจะซีดหรือสีม่วงคล้ำ ลักษณะน้ำมูกก็ช่วยบอกโรคได้เช่น
หากน้ำมูกใสก็น่าจะเป็นภูมิแพ้ หากมีน้ำมูกข้างเดียวสีเหมือนหนองก็น่าจะเป็นไซนัสอักเสบ
- อาจจะมีการอักเสบของหู แก้วหูอาจจะทะลุทำให้ผู้ป่วยได้ยินไม่ชัด
- เยื่อบุตาอาจจะแดง และบวมเนื่องจากภูมิแพ้
สาเหตุของอาการคัดจมูก
สาเหตุของโรคภูมิแพ้ขึ้นกับชนิดของโรคภูมิแพ้ ผู้ป่วยบางคนอาจจะแพ้สารภูมิแพ้หลายอย่างทำให้มีอาการภูมิแพ้ทั้งปี
และเมื่อได้รับสารกระตุ้นจะทำให้อาการกำเริบเป็นระยะ สาเหตุของโรคภูมิแพ้จะขึ้นกับชนิดของโรคภูมิแพ้
Allergic Rhinitis
perennial allergic rhinitis
อาการของผู้ป่วยจะมีอาการคัดจมูก
น้ำมูกไหลทั้งปี อาการคันคอ จาม น้ำมูกไหลจะน้อยกว่า seasoning rhinitis
เป็นภูมิแพ้ที่เกิดจากสารภูมิแพ้ที่อยู่ในบ้าน
แต่ก็อาจจะเกิดจากสารภูมิแพ้นอกบ้านที่มีอยู่ตลอดปี สารภูมิแพ้ได้แก่
seasonal allergic rhinitis
เป็นโรคภูมิแพ้ที่เกิดตามฤดูการ ส่วนใหญ่เกิดจากสารภูมิแพ้นอกบ้านที่เกิดตามฤดู
อาการที่สำคัญของโรค seasoning allergic rhinitis
- อาการคันจมูกเป็นอาการสำคัญ นอกจากนั้นอาจจะคันบริเวณ ตา หู
คอ
- ในช่วงที่มีเกษารดอกไม้ และผู้ป่วยอยู่ในช่วงภูมิแพ้ ผู้ป่วยอาจจะมีอาการน้ำมูกไหลมากขึ้นหากสัมผัสสิ่งระคายเคือง
เช่นควันบุหรี่ เครื่องปรับอากาศ กลิ่มฉุน
- คัดจมูก และน้ำตาไหล
- น้ำมูกไสไหลอยู่ตลอดเวลา
- อาการคัดจมูกอาจจเป็นมากถึงต้องอ้าปากหายใจหรืออาจจะปวดไซนัส
หรือปวดหู
- อาจจะมีอาการไอเนื่องจากน้ำมูกไหลลงคอ
- ผู้ป่วยโรคหอบหืดจะมีอาการหอบมากขึ้น
- อาการมักจะเป็นมากตอนเช้า
- อาการแต่ละวันจะไม่เท่ากัน
Sporadic allergic rhinitis
เป็นโรคภูมิแพ้ที่เกิดจากการสัมผัสสารที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนซึ่งอาจจะเป็นสัตว์เลี้ยง
เกษรดอกไม้ กลิ่น อาหาร
Occupational allergic rhinitis
เป็นภูมิแพ้ที่เกิดจากสภาพแวดล้อมในการทำงาน เช่นการทำฟาร์มปศุสัตว์
เกษตรกร สารเคมี
Non Allergic Rhinitis
ผู้ป่วยก็จะมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหลแต่จะไม่มีอาการคัน เมื่อเจาะเลือดตรวจหรือการทดสอบทางผิวหนังก็ไม่พบหลักฐานว่าเป็นภูมิแพ้
โรคที่พบได้แก่
Nonalllergic Eosinophilic Rhinitis
- ผู้ป่วยจะมีอาการเหมือนภูมิแพ้ คัดจมูก น้ำมูกไหล คันจมูก ซึ่งจะเป็นทั้งปี
- บางคนอาจจะไม่ได้กลิ่น
- บางคนอาจจะพบร่วมกับการอักเสบของไซนัส หรือโรคหอบหืด
- เมื่อตรวจนำ้มูกจะพบเซลล์เม็ดเลือดขาวที่เรียกว่า Eosinophil
Infectious Rhinitis
- เป็นอาการคัดจมูกที่เกิดจากโรคติดเชื้อ เช่นไข้หวัด เชื้อแบคทีเรีย
- น้ำมูกจะมีสีเหลือง
- หากมีน้ำมูกสีเหลืองติดต่อกันเกิน 5 วันให้สงสัยว่าจะน่าจะเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียที่จมูก
หรือไซนัส
- มีไข้ต่ำๆ
- เมื่อนำน้ำมูกมาตรวจจะพบเวลล์เม็ดเลือดขาวชนิด neutrophil และเชื้อแบคทีเรีย
Idiopathic nonallergic rhinitis หรือ Vasomotor rhinitis
- อาการคัดคัดจมูกของผู้ป่วยมิใช่เกิดจากโรคภูมิแพ้
- อาจจะเกิดจาก กลิ่นฉุนๆ
- อาจจเกิดสารเคมี
- บางครั้งอาจจะเกิดจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง เช่น ความชื้น อุณหภูมิ ความกดอากาศ
- ตรวจน้ำมูกไม่พบเซลล์ที่ผิดปกติ
- กลไกการเกิดยังไม่ทราบ
Hormonal Rhinitis
- เป็นอาการคัดจมูกที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย
- อาการคัดจมูกมักจะสัมพันธ์กับ การมีประจำเดือน การตั้งครรภ์ ต่อมไทรอยด์ทำงานน้อย
- อาการสำคัญคือคัดจมูก และน้ำมูกไหล
Anatomical Rhinitis
เป็นอาการคัดจมูกที่เกิดจากควมผิดปกติในจมูก เช่น มี polyp ผนังกันจมูกเบี้ยว
มีวัตถุแปลกปลอม
แพทย์จะตรวจอะไรบ้างเพื่อหาสาเหตุของโรคภูมิแพ้
การตรวจร่างกาย
- ตรวจดูว่าใช้ปากหายใจแทนจมูกหรือไม่
- ตรวจจมูกว่ามีรอยขวางกลางจมูกหรือไม่
- ส่องตรวจรูจมูกเพื่อตรวจดูว่ามี polyp เยื่อบุจมูกว่าบวมหรือไม่
สีของเยื่อบุจมูก สีของน้ำมูก
- ตรวจตาว่ามีการอักเสบของเยื่อบุตาหรือไม่
- ตรวจคอ ว่ามีเสบหะติดคอหรือไม่ ต่อมทอนซิลโตหรือไม่
- ตรวจหูว่ามีหูน้ำหนวก หรืออักเสบ
การทดสอบทางภูมิแพ้
- การทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนังซึ่งสามารถทำได้สองวิธีคือ การใช้เข็มสะกิดผิวหนังให้เป็นแผล แล้วหยดสารที่สงสัยว่าจะเป็นสารภูมิแพ้บนผิวหนังที่เป็นแผล
รอดูผลซึ่งจะเกิดผื่นลมพิษบริเวณดังกล่าวในเวลา 10-15 นาที หรืออาจจะใช้วิธีฉีดสารที่สงสัยว่าจะแพ้เข้าใต้ผิวหนัง
แล้วรอผลว่าจะเกิดลมพิษหรือไม่
- การเจาะเลือดตรวจหาระดับภูมิ IgE หลังจากผิวหนังถูกกระตุ้นด้วยสารที่สงสัยว่าจะเป็นสารภูมิแพ้
- การเจาะเลือดหาระดับ IgE ซึ่งผู้ป่วยภูมิแพ้มักจะมีภูมิ IgE
ระดับสูง
- การเจาะเลือดตรวจ CBC จะพบว่ามีเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด Eosinophil
สูง
- การตรวจทางรังสีเพื่อตรวจดูว่ามีโรคแทรกซ้อน เช่นไซนัสอักเสบโดยอาจจะเป็นการตรวจ
X-RAY ธรรมดาหรือตรวจด้วยคอมพิวเตอร์
- การตรวจพิเศษเช่นการส่องเข้าไปในรูจมูก Rhinoscopy เพื่อตรวจดูว่ามีเนื้องอก
หรือสิ่งผิดปกติอย่างอื่นหรือไม่
การรักษาโรคภูมิแพ้
ขั้นตอนในการรักษาโรคภูมิแพ้
ความหนักของอาการ |
ชนิดของการรักษา |
อาการไม่หนักหรือนานๆจะเป็นสักครั้ง |
- ยังไม่ต้องใช้ยา
- แนะนำให้หลีกเลี่ยงจากสารที่ทำให้เกิดภูมิแพ้
|
อาการเป็นหนักปานกลางและเป็นบ่อย |
|
ในรายที่มีอาการรุนแรง |
- เริ่มด้วยยา steroid ชนิดพ่น
- หรือยาแก้แพ้ชนิดรับประทาน
- หากอาการเป็นมากอาจจะให้ prednisolone รับประทาน
|
ข้อแนะนำในการรักษาโรคภูมิแพ้สำหรับคนไข้
ภูมิแพ้ในผู้สูงอายุ
- ผู้ป่วยสูงอายุมักจะไม่ค่อยเป็นโรคภูมิแพ้ สาเหตุมักจะเป็น atropic rhinitis
ซึ่งรักษายาก
- ต้องพิจารณาเรื่องยาที่ผู้ป่วยรับประทานเพราะอาจจะเป็นสาเหตุของอาการคัดจมูก
เช่น reserpine(ยาลดความดันโลหิต),methyldopa(ยาลดความดันโลหิต),prazocin (ยาลดความดันโลหิต),ACEI(ยาลดความดันโลหิต
- ยาแก้คัดจมูก Decongestant อาจจะทำให้ปัสสาวะไม่ออกในผู้ป่วยที่เป็นต่อมลูกหมากโต
- ยาแก้คัดจมูก Decongestant อาจจะมีผลต่อความดันโลหิตและโรคหัวใจของผู้ป่วย
- ยาแก้แพ้ชนิดที่ง่วงนอนอาจจะทำให้ผู้ป่วยซึมหรืออาจจะเป็นสาเหตุให้หกล้ม
โรคภูมิแพ้ในคนท้องและเลี้ยงลูกด้วยนม
โรคภูมิแพ้ในเด็ก
- การวินิจฉัยโรคภูมิแพ้ในเด็กอาจจะยาก เนื่องจากเด็กอาจจะมาด้วยอาการหูน้ำหนวก
ไซนัสอักเสบเรื้อรัง
- ต้องรีบการวินิจฉัยโรคภูมิแพ้ในเด็กให้ได้โดยเร็ว เพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อน
- เด็กที่แพ้อาหารอาจจะมาด้วยเรื่องคัดจมูกน้ำมูกไหล
- การใช้ยาพ่นชนิด steroid เรื้อรังอาจจะทำให้การเจริญเติบโตช้าลง
- ต้องกำจัดสิ่งแวดล้อมที่สงสัยว่าจะแพ้
หลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้เกิดภูมิแพ้ทั้งสารที่สงสัย และสิ่งแวดล้อมรวมทั้งสารที่ระคายเคืองต่อทางเดินหายใจ
Immunotherapy (desensitization)
วิธีการก็คือการทดสอบทางผิวหนังโดยการฉีดสารที่สงสัยหรือสารที่แพ้บ่อยเข้าใต้ผิวหนังหลังจากนั้นดูปฏิกิริยาว่าแพ้อะไร เมื่อทราบว่าแพ้สารอะไรก็นำสารนั้นมาฉีดเข้าใต้ผิวหนังเพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันชนิดIgG แทน IgE ซึ่งไม่ทำให้เกิดปกิกิริยาภูมิแพ้ การรักษาจะได้ผลหลังจากฉีดไปแล้ว6-12 เดือน อันตาจที่อาจจะเกิดจากการทดสอบหรือการรักษาอาจจะทำให้เกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้อย่างรุนแรง
การทดสอบภูมิแพ้จะทำในรายที่รักษาด้วยยาแล้วไม่ได้ผล หรือผู้ป่วยอาการรุนแรงหรือมีโรคแทรกซ้อน ไม่ควรทำในรายที่มีประวัติการแพ้ต่อการฉีดสารภูมิแพ้
ข้อควรพิจารณาในการImmunotherapy(desensitization)
- ผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิแพ้ทั้งปี
- ผู้ป่วยที่อาการยังไม่ดีขึ้นแม้ว่าจะใช้ทั้งยาพ่นและยารับประทานอย่างเต็มที่
- ป้องกันการกำเริบของโรคหอบหืด
- ป้องกันการกลับเป็นซ้ำของโรคไซนัส
- ป้องกันการกลับเป็นซ้ำของโรคหูชั้นกลางอักเสบ
เมื่อไปพบแพทย์ท่านจะต้องบอกอะไรบ้าง
- อายุที่เริ่มเป็น
- การดำเนินของโรค
- ความรุนแรงของโรค
- ระยะเวลาที่เป็น
- ความสัมพันธ์กับอากาศ
- ความสัมพันธ์กับอาการทางตา คอ โรคหอบหืด
- เคยเป็นโรคไซนัสหรือหูอักเสบหรือไม่
- ปัจจัยที่ทำให้โรคเป็นมากขึ้น
- อาการคัดจมูกมีความสัมพันธ์กับโรคหอบหืดหรือไม่
- อาการมีความสัมพันธ์กับการใช้ยาหรือไม่
- อาการมีความสัมพันธ์กับอาหารหรือไม่
- ประวัติภูมิแพ้ในครอบครัว
- ประวัติการใช้ยา
อาการจามจะเกิดเมื่อมีการระคายเคืองต่อเยื่อบุจมูก
ทำให้สมองสั่งให้มีอาการจามออกมา
ข้อแนะนำ
- เมื่อเกิดอาการอยากจามให้กดบริเวณปลายจมูกซึ่งจะทำให้หยุดอาการอยากจาม
- บางคนเมื่อเจอแสงจ้าๆอาจจะทำให้จามคนนั้นอาจจะต้องสวมแว่นกันแดด
- หากมีน้ำมูกให้สั่งออกและล้างรูจมูกด้วยน้ำเกลือ
- หากมีอาการจามอย่าเอามือปิดหรือหุบปากเพราะจะทำให้ความดันไปสู้หูชั้นกลางทำให้เกิดการอักเสบของหู
- หากคุณมีอาการจามบ่อยให้ปรึกษาแพทย์เพราะอาจจะเป็นภูมิแพ้
โรคภูมิแพ้