siamhealth

หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ

การนอนหลับในเด็ก: สำคัญอย่างไร และทำอย่างไรให้ลูกนอนดี?

ทำไมการนอนหลับจึงสำคัญสำหรับเด็ก?

การนอนหลับมีบทบาทสำคัญต่อพัฒนาการทางร่างกายและสมองของเด็ก โดยเฉพาะในช่วงวัยแรกเกิดถึงวัยเรียน เพราะในช่วงเวลานอนหลับ สมองของเด็กจะทำงานเพื่อจัดเก็บความทรงจำ หลั่งฮอร์โมนเจริญเติบโต (Growth Hormone) และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ การนอนหลับอย่างเพียงพอยังช่วยให้เด็กมีอารมณ์ดี มีสมาธิในการเรียนรู้ และลดความเสี่ยงต่อปัญหาพฤติกรรม



เด็กควรนอนวันละกี่ชั่วโมง?

เด็กแต่ละช่วงวัยต้องการการนอนที่แตกต่างกันเพื่อให้ร่างกายและสมองได้รับการฟื้นฟูอย่างเต็มที่

ช่วงวัย จำนวนชั่วโมงที่แนะนำต่อวัน
ทารก (0-3 เดือน) 14-17 ชั่วโมง
ทารก (4-11 เดือน) 12-15 ชั่วโมง
วัยหัดเดิน (1-2 ปี) 11-14 ชั่วโมง
วัยก่อนเรียน (3-5 ปี) 10-13 ชั่วโมง
วัยเรียน (6-12 ปี) 9-12 ชั่วโมง
วัยรุ่น (13-18 ปี) 8-10 ชั่วโมง

ปัญหาการนอนที่พบบ่อยในเด็ก

เด็กหลายคนอาจพบปัญหาการนอนที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและพฤติกรรม เช่น

1. นอนหลับยาก

เด็กบางคนอาจมีปัญหานอนหลับยาก เด็กบางคนอาจไม่อยากเข้านอนหรือใช้เวลานานกว่าจะหลับหรือยังตื่นตัวหรือมีสิ่งรบกวน เช่น แสงจากหน้าจอมือถือ หรือการเล่นก่อนนอนที่มากเกินไป

2. ตื่นกลางดึกบ่อย

เด็กอาจตื่นขึ้นมาหลายครั้งในตอนกลางคืน เนื่องจากความฝัน ฝันร้าย หรือวงจรการนอนที่ยังไม่สมบูรณ์

3. ง่วงนอนมากในเวลากลางวัน

หากเด็กนอนหลับไม่เพียงพอ อาจมีอาการง่วงในเวลากลางวัน หงุดหงิดง่าย และไม่มีสมาธิในการเรียน

4.ตื่นเช้าเกินไป

บางครั้งเด็กอาจตื่นเช้ากว่าที่ควร ซึ่งอาจทำให้ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ

5. นอนกรนหรือภาวะหยุดหายใจขณะหลับ

หากเด็กกรนเสียงดังบ่อยๆ หรือหายใจติดขัด อาจเป็นสัญญาณของภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งควรพบแพทย์

5. ขากระตุกหรือละเมอ

เด็กบางคนอาจมีอาการกระตุกที่ขาหรือเดินละเมอขณะหลับ ซึ่งอาจเกิดจากความเครียดหรือพัฒนาการของระบบประสาท

การฝันร้าย

ฝันร้ายในเด็กมักจะพบบ่อยในเด็กมักจะเกิดในช่วงที่เด็กหลับสนิทช่วงเวลา 4 -6 นาฬิกา เด็กจะตื่นและมาหาท่านพร้อมทั้งสามารถเล่าความฝันได้ อาจจะฝันเรื่อปีศาจ เด็กจะร้องไห้ หายใจหอบเด็กอาจจะไม่ยอมไปหลับและอาจจะฝันซ้ำๆ อาการฝันร้ายอาจจะเป็นถึงวัยรุ่นจึงหายไป สาเหตุเกิดจากเด็ได้รับความกระทบกระเทือนจากจิตใจ และการเจ็บป่วยทางร่างกาย ถ้าหากการฝันร้ายทำให้เด็กนอนไม่หลับควรที่จะตรวจสอบว่าเด็กมีเรื่องเครียดอะไรบ้าง การฝันร้ายอาจจะทำให้เด็กง่วงในตอนกลางวันควรปรึกษาแพทย์ประจำครอบครัว

ละเมอ

เด็กจะพูดได้ 30 วินาที ความหมายไม่ต่อเนื่อง เด็กจะหายได้เองไมต้องรักษา

เดินละเมอ

อาการจะเกิดหลังจากนอนหลับไป 2-3 ชั่วโมงเด็กจะลุกนั่งและเดินไปมา เด็กอาจจะเดินรอบบ้านเปิดประตูได้เด็กอาจจะเดินกลับที่นอนแล้วนอนต่อ ถามเด็กตอนเช้าเด็กจะจำเหตุการณ์ไม่ได้ถ้าหากเกิดเหตุการณ์บ่อยอาจจะต้องป้องกันอุบัติเหตุ โดยการเก็บของที่เป็นอันตรายปิดประตูล็อกกุญแจอาการนี้จะหายไปเมื่อเป็นวัยรุ่น

เคล็ดลับช่วยให้เด็กนอนหลับดีขึ้น

1. สร้างกิจวัตรก่อนนอนที่สม่ำเสมอ

2. สร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการนอน

3. ควบคุมอาหารและเครื่องดื่มก่อนนอน

4. ให้เด็กได้ออกกำลังกายระหว่างวัน

5. จัดการความเครียดและความกังวลของเด็ก

โดยสรุปวิธีทำให้เด็กหลับดี

 

เมื่อไหร่ควรปรึกษาแพทย์?

หากเด็กมีปัญหานอนหลับเรื้อรัง เช่น นอนไม่พอ ตื่นบ่อย หรือง่วงนอนมากผิดปกติในเวลากลางวัน ควรพาไปพบกุมารแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับเพื่อหาทางแก้ไขที่เหมาะสม

สรุป

การนอนหลับที่ดีเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็ก การสร้างกิจวัตรก่อนนอนที่เหมาะสม และการปรับสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการพักผ่อนสามารถช่วยให้เด็กหลับสนิทขึ้น หากปัญหาการนอนส่งผลต่อชีวิตประจำวันของเด็ก ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสม

เด็กทารกจะนอนไม่เป็นเวลา วันหนึ่งจะนอน 16-17 ชั่วโมงแต่ละครั้งจะนอนนาน 1-2 ชั่วโมงจนกระทั้ง 6 เดือน การนอนของเด็กจะเป็นเวลาขึ้น เมื่อเด็กโตขึ้นเด็กจะนอนน้อยลง และนอนนานขึ้น แนวทางที่จะเสนอเป็นแนวทางที่จะทำให้เด็กหลับสบายขึ้น และหลับนานขึ้น

ทบทวนวันที่

โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว