ผลเสียของการดื่มสุราต่อทารกในครรภ์: ความเสี่ยงที่คุณแม่ควรรู้

ผลเสียของการดื่มสุราต่อทารกในครรภ์

การตั้งครรภ์เป็นช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับการพัฒนาของทารกในครรภ์ การดื่มสุราในช่วงนี้อาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพและการเจริญเติบโตของทารก การทำความเข้าใจถึงผลเสียของแอลกอฮอล์ต่อทารกในครรภ์เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณแม่สามารถดูแลสุขภาพของตนเอง และลูกน้อยได้อย่างเหมาะสม

สุราทำร้ายทารกได้อย่างไร

1. การผ่านแอลกอฮอล์สู่ทารก แอลกอฮอล์สามารถซึมผ่านรก (Placenta) และเข้าสู่ระบบเลือดของทารกในครรภ์ได้โดยตรง เนื่องจากทารกไม่มีระบบเผาผลาญแอลกอฮอล์ที่สมบูรณ์เหมือนผู้ใหญ่ สารแอลกอฮอล์จึงคงอยู่ในร่างกายของทารกนานกว่าและส่งผลกระทบโดยตรงต่อการพัฒนาเซลล์และอวัยวะต่าง ๆ

2. การรบกวนการพัฒนาของสมอง แอลกอฮอล์สามารถทำลายเซลล์สมองของทารกและขัดขวางกระบวนการพัฒนาของระบบประสาท ทำให้เกิดความบกพร่องทางการเรียนรู้ ความจำ และพฤติกรรมในระยะยาว

3. ลดการไหลเวียนของเลือดและออกซิเจน แอลกอฮอล์ส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือดจากแม่สู่ทารก ทำให้การได้รับออกซิเจนและสารอาหารของทารกลดลง ซึ่งส่งผลต่อการเจริญเติบโต

ดื่มสุราปริมาณเท่าใดจึงเกิดผลเสีย

ไม่มีปริมาณแอลกอฮอล์ที่ปลอดภัยสำหรับการดื่มในระหว่างตั้งครรภ์ แม้เพียงปริมาณเล็กน้อยก็อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดผลกระทบ เช่น:

• การดื่มสุราน้อยครั้ง (Occasional Drinking): อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อปัญหาพัฒนาการสมองของทารก

• การดื่มสุราอย่างต่อเนื่อง (Chronic Drinking): ทำให้เกิดกลุ่มอาการแอลกอฮอล์ในทารก (Fetal Alcohol Syndrome) ซึ่งเป็นผลเสียร้ายแรงที่สุด

• การดื่มในปริมาณมากในครั้งเดียว (Binge Drinking): ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการแท้ง การคลอดก่อนกำหนด และการเจริญเติบโตผิดปกติ

ผลกระทบของการดื่มสุราต่อทารกในครรภ์

1. ความผิดปกติแต่กำเนิด แอลกอฮอล์สามารถขัดขวางกระบวนการพัฒนาของเซลล์ในทารก ทำให้เกิดความผิดปกติแต่กำเนิด เช่น ความผิดปกติของโครงสร้างใบหน้า ระบบประสาท และอวัยวะภายใน

2. กลุ่มอาการแอลกอฮอล์ในทารก (Fetal Alcohol Syndrome, FAS) ทารกที่เกิดจากมารดาที่ดื่มสุราในระหว่างตั้งครรภ์อาจเกิดกลุ่มอาการนี้ ซึ่งรวมถึงปัญหาการเจริญเติบโตช้า ความบกพร่องทางสติปัญญา และปัญหาพฤติกรรม

3. น้ำหนักตัวต่ำ การดื่มสุราระหว่างตั้งครรภ์เพิ่มความเสี่ยงต่อการคลอดทารกที่มีน้ำหนักตัวต่ำ ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพระยะยาว เช่น ภูมิคุ้มกันอ่อนแอและพัฒนาการล่าช้า

4. การคลอดก่อนกำหนด แอลกอฮอล์อาจกระตุ้นให้เกิดการคลอดก่อนกำหนด ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนในทารก เช่น ปัญหาเกี่ยวกับการหายใจและการควบคุมอุณหภูมิร่างกาย

5. ผลกระทบระยะยาว ทารกที่ได้รับผลกระทบจากแอลกอฮอล์ตั้งแต่ในครรภ์อาจมีปัญหาด้านการเรียนรู้ ความจำ สมาธิ และการปรับตัวในสังคมในระยะยาว

Fetal alcohol syndrome (FAS) มีลักษณะดังต่อไปนี้

• ด้านการเจริญเติบโต: ทารกเจริญเติบโตช้าในขณะอยู่ในครรภ์; เมื่อคลอดออกมาก็เจริญเติบโตช้า
• ระบบประสาท: ทารกจะมีอาการสั่น , ดูดนมไม่ดี ,กล้ามเนื้อเกร็งหรืออ่นปวกเปียก พัฒนาการช้า
• การเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้าง(ต้องมีอย่างน้อย2ข้อ): ตาแคบ, หนังตาตก,คางเล็ก ศีรษะเล็ก ตาเล็ก ศีรษะเล็ก หน้าเล็ก,ริมฝีปากบนบางและกว้าง, จมูกสั้นและเชิด,ไม่มีร่องจากจมูกถึงริมฝีปาก
• อาการอื่นที่พบได้: ความผิดปกติของหัวใจ, กระดูกสันหลังผิดปกติ,แขนขาผิดปกติ, ระบบขับถ่ายผิดปกติ
• มีปัญหาด้านการเรียนรู้
• ความจำไม่ดี
• ไม่มีสมาธิ
• การพัฒนาการเรื่องการพูดและภาษาล่าช้า
• ไอคิวต่ำ
• มีปัญหาเรื่องการตัดสินใจ

FAS จะเกิดในผู้ที่ดื่มสุรามากกว่า 3 หน่วยสุราต่อวัน

วิธีการประเมินการดื่มสุราสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

1. จดบันทึกการดื่มสุรา เขียนบันทึกจำนวนครั้งและปริมาณการดื่มสุราในแต่ละวันเพื่อประเมินว่าดื่มมากน้อยเพียงใด

2. ประเมินปริมาณแอลกอฮอล์ ใช้หน่วยมาตรฐาน (Standard Drink) ในการคำนวณปริมาณแอลกอฮอล์ที่บริโภค เช่น เบียร์ 330 มล. หรือไวน์ 150 มล. เท่ากับ 1 หน่วย

3. พิจารณาความถี่และความต่อเนื่อง หากคุณแม่ดื่มสุราบ่อยครั้งหรือมีความต่อเนื่อง ควรพิจารณาว่าพฤติกรรมดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพครรภ์

4. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ หากสงสัยว่าดื่มสุราเกินกว่าที่ควร ควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์หรือนักบำบัดเพื่อตรวจสอบและประเมินสุขภาพ

หรือประเมินจากแบบสอบถาม

สำหรับผู้ที่ดื่มสุรามักจะให้ข้อมูลว่าดื่มไม่มาก การจะประเมินว่ามากหรือน้อยให้ถามคำถาม 4 ข้อและให้คะแนน

• ให้ถามว่าดื่มวันละกี่แก้ว(หากตอบว่ามากกว่า2 แก้วจะให้คะแนน 2
• ให้ถามว่าที่ผ่านมามีใครต่อว่าเรื่องที่คุณดื่มสุราหรือไม่ หากมีคนต่อว่าให้คะแนน 1
• ให้ถามว่าเคยมีความคิดที่จะลดการดื่มหรือไม่ หากเคยคิดให้คะแนน 1
• ให้ถามว่าจะต้องดื่มตอนเช้าเพื่ออาการเมาค้าง หากตอบว่าใช่ให้คะแนน 1

หากตอบว่าไม่ใช่หมดจะได้คะแนนเท่ากับ 0 โอกาศที่จะเป็นคนดื่มสุราหนักเท่ากับร้อยละ 1.5 แต่หากข้อมากกว่า 5 แก้วต่อวันจะมีโอกาศที่จะดื่มสุราหนักเพิ่มขึ้น 8.5 เท่า หากทุกข้อตอบใช่จะมีโอกาศที่จะดื่มสุราหนักประมาณร้อยละ 60 หากท่านมีปัญหาเรื่องดื่มสุราทารกที่คลอดออกมาจะมีโอกาศเกิด FAS 59 รายต่อการคลอดปกติ 1000 ราย ดังนั้นผู้ที่ดื่มสุราควรจะลดการดื่มสุราระหว่างการตั้งครรภ์โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ

ความสำคัญของการหลีกเลี่ยงการดื่มสุราในระหว่างตั้งครรภ์

ไม่มีปริมาณแอลกอฮอล์ที่ปลอดภัยสำหรับการดื่มในระหว่างตั้งครรภ์ คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงการดื่มสุราโดยสิ้นเชิงเพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพของทารก หากมีปัญหาเกี่ยวกับการหยุดดื่ม ควรปรึกษาแพทย์หรือนักบำบัดเพื่อขอคำแนะนำและการสนับสนุน

คำแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

1. หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ หากคุณกำลังวางแผนตั้งครรภ์หรือทราบว่าตั้งครรภ์แล้ว ควรหยุดดื่มสุราในทันที

2. รับคำปรึกษาจากแพทย์ หากคุณเคยดื่มสุราในช่วงตั้งครรภ์ ควรแจ้งแพทย์ทันทีเพื่อรับคำแนะนำและการดูแลอย่างเหมาะสม

3. หาแหล่งสนับสนุน ขอคำแนะนำจากครอบครัวหรือกลุ่มสนับสนุนเพื่อลดความเครียดและเพิ่มโอกาสในการเลิกดื่มสุรา

บทสรุป

การดื่มสุราในระหว่างตั้งครรภ์เป็นพฤติกรรมที่สามารถส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสุขภาพและการพัฒนาของทารก คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพตนเองและลูกในครรภ์ การรับคำปรึกษาและการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญและคนใกล้ชิดจะช่วยให้การตั้งครรภ์ดำเนินไปอย่างปลอดภัยและมีสุขภาพดี

• การตั้งครรภ์
• สิ่งแวดล้อมและการตั้งท้อง
• การเตรียมตัวก่อนการตั้งครรภ์
• การตรวจก่อนและระหว่างตั้งครรภ์
• การตรวจเพื่อประเมินสุขภาพทารก
• การตั้งครรภ์ไตรมาศ1
• การตั้งครรภ์ไตรมาศ2
• การตั้งครรภ์ไตมาศ3
• การคลอด
• โรคแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์
• การให้นมลูก