หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | วัคซีน
การวินิจฉัยโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์นั้นต้องอาศัยทั้งการซักประวัติ การตรวจร่างกาย และการตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่ให้ได้การวินิจฉัยที่ถูกต้อง นอกจากนี้การวินิจฉัยโรคตุ้งแต่ระยะของโรคก่อนที่ผู้ป่วยจะมีภาวะทุพพลภาพอย่างถาวรก็มีความจำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากแพทย์จะได้ให้การรักษาตั้งแต่ระยะแรกก่อนที่ผู้ป่วยจะพิการทำให้ผลลัพธ์ในการรักษาดีขึ้น กล่าวคือ ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ข้อได้ตามปกติ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
จากแนวความคิดดังกล่าวแพทย์อายุรกรรมโรคข้อในประเทศสหรัฐอเมริกา และยุโรปจึงได้ร่วมกันพัฒนาเกณฑ์การวินิจฉัยโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ใหม่ขึ้นในปี ค.ศ.2010 เพื่อให้สามารถวินิจฉัยโรคได้เร็วยิ่งขึ้น และไม่จำเป็นต้องรอให้ผู้ป่วยมีอาการนานกว่า 6 สัปดาห์ หรือผุกร่อนทางภาพรังสีเสียก่อนจึงจะวินิจฉัยโรคได้
การวินิจฉัยโรคใช้ระบบคะแนน(scoring system) โดยการนำคะแนนที่ได้ในแต่ละหมวดมารวมกัน ผู้ป่วยจะได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์เมื่อ
1) ตรวจพบมีข้ออักเสบ(synovitis) อย่างน้อย 1 ข้อ
2) อาการข้ออักเสบนั้นต้องไม่เกิดจากโรคหรือภาวะอื่น
3) มีคะแนนรวมเท่ากับหรือมากกว่า 6
เกณฑ์การวินิจฉัยโรคนี้มีความไวร้อยละ 74 และความจำเพาะร้อยละ 71-74
เกณฑ์การวินิจฉัยโรครูมาตอยด์
เกณฑ์การวินิจฉัยโรคนี้แบ่งออกเป็น 4 หมวดประกอบด้วย
จะต้องได้คะแนนมากกว่า 6 จึงจะวินิจฉัยว่าเป็นโรครูมาตอยด์
จำนวนและตำแหน่งของข้อที่มีการอักเสบ
A. จำนวนและตำแหน่งของข้อที่มีการอักเสบ |
||
ข้อใหญ่หนึ่ข้อ |
0 |
|
ข้อใหญ่2-10ข้อ |
1 |
|
ข้อเล็ก1-3ข้อ |
2 |
|
ข้อเล็ก 4-10 ข้อ |
3 |
|
มากกว่า 10 ข้อ |
5 |
|
B. ผลการตรวจเลือด |
||
Negative RF and negative ACPA |
0 |
|
Low positive RF or low positive ACPA |
2 |
|
High positive RF or high positive ACPA |
3 |
|
C. Acute phase reactants |
||
Normal CRP and normal ESR |
0 |
|
Abnormal CRP or normal ESR |
1 |
|
D. ระยะเวลาที่มีอาการ |
||
<6 สัปดาห์ |
0 |
|
≥6 สัปดาห์ |
1 |
ACPA = anti-citrullinated protein antibody; CRP = C-reactive protein; ESR = erythrocyte sedimentation rate; RA = rheumatoid arthritis.