การใช้ยา Augmentin อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
ทำไมต้องรู้จักยา Augmentin?
การติดเชื้อจากแบคทีเรีย เช่น ไซนัสอักเสบ ปอดบวม หรือฝีที่เหงือก เป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยในประเทศไทย และอาจรุนแรงหากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม Augmentin เป็นยาปฏิชีวนะที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพในการจัดการกับการติดเชื้อจากแบคทีเรียที่ดื้อยา แต่การใช้ยานี้อย่างถูกวิธีเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ผลดีและลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียง
1. Augmentin คืออะไร?
Augmentin เป็นยาปฏิชีวนะในกลุ่มเพนิซิลลิน (Penicillin) ที่ประกอบด้วยตัวยาสำคัญ 2 ชนิด:
- Amoxicillin: ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย
- Clavulanic Acid: ยับยั้งเอนไซม์เบต้าแลคตาเมส (Beta-Lactamase) ที่แบคทีเรียบางชนิดผลิตขึ้นเพื่อทำลาย Amoxicillin ทำให้ Augmentin มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อที่ดื้อยาได้ดีขึ้น
ด้วยสูตรผสมนี้ Augmentin จึงสามารถจัดการกับเชื้อแบคทีเรียที่ดื้อยาได้ดีกว่า Amoxicillin ตัวเดียว และถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในการรักษาการติดเชื้อจากแบคทีเรีย
ภาพยา Augmentin ในรูปแบบเม็ดและยาน้ำ
2. Augmentin ใช้รักษาอะไรได้บ้าง?
Augmentin ใช้รักษาการติดเชื้อจากแบคทีเรียในระบบต่าง ๆ ดังนี้:
- การติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน: เช่น ไซนัสอักเสบ, ทอนซิลอักเสบ, หูชั้นกลางอักเสบ (มักเกิดจากเชื้อ Haemophilus influenzae และ Moraxella catarrhalis)
- การติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่าง: เช่น หลอดลมอักเสบ, ปอดบวม (มักเกิดจากเชื้อ H. influenzae และ M. catarrhalis)
- การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ: เช่น กระเพาะปัสสาวะอักเสบ (มักเกิดจากเชื้อ Escherichia coli และ Klebsiella species)
- การติดเชื้อที่ผิวหนังและเนื้อเยื่ออ่อน: เช่น ฝี, แผลติดเชื้อ (มักเกิดจากเชื้อ Staphylococcus aureus, E. coli, และ Klebsiella species)
- การติดเชื้อในช่องปากและทันตกรรม: เช่น ฝีหนองที่เหงือก
หมายเหตุ: Augmentin ไม่มีผลต่อการติดเชื้อจากไวรัส เช่น ไข้หวัดใหญ่ หรือโควิด-19 การใช้ยานี้ในกรณีที่ไม่จำเป็นอาจเพิ่มความเสี่ยงเชื้อดื้อยา
ผิวหนังติดเชื้อแบคทีเรียซึ่งรักษาด้วย Augmentin
3. ขนาดและวิธีใช้ยา Augmentin อย่างถูกต้อง
การใช้ยา Augmentin ต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร เนื่องจากขนาดยาขึ้นอยู่กับอายุ น้ำหนักตัว และความรุนแรงของการติดเชื้อ
ขนาดยาที่แนะนำ
- ผู้ใหญ่และเด็กอายุมากกว่า 12 ปี:
- การติดเชื้อทั่วไป: 625 มก. (Amoxicillin 500 มก. + Clavulanic Acid 125 มก.) ทุก 8 ชั่วโมง หรือ 1,000 มก. (875 มก./125 มก.) ทุก 12 ชั่วโมง
- การติดเชื้อรุนแรง: อาจปรับเป็น 875 มก. ทุก 12 ชั่วโมง หรือตามคำแนะนำของแพทย์
- หมายเหตุ: หากมีปัญหาการกลืน อาจใช้ชนิดผงผสมน้ำ (125 มก. หรือ 250 มก.) แทนขนาด 500 มก. แต่ห้ามใช้ขนาด 250 มก. 2 เม็ดแทน 500 มก. เพราะปริมาณ Clavulanic Acid จะสูงเกินไป
- เด็ก (อายุต่ำกว่า 12 ปี):
- ขนาดยาขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัว ปกติใช้ในรูปแบบยาน้ำ (125/31 หรือ 200/28 มก./5 มล.) คำนวณตามน้ำหนัก 20-40 มก./กก./วัน (คำนวณจาก Amoxicillin) แบ่งให้วันละ 2-3 ครั้ง
- ตัวอย่าง: เด็กน้ำหนัก 10 กก. อาจได้รับยาน้ำ 200-400 มก./วัน
- การให้ยาน้ำ Augmentin ในเด็ก:
- ใช้ช้อนตวงหรือหลอดหยดที่มากับขวดยา เพื่อให้ได้ขนาดยาที่ถูกต้อง
- หากเด็กไม่ชอบรสยา สามารถผสมยาในน้ำผลไม้หรือนมเล็กน้อยได้ (แต่ควรให้กินให้หมดทันที)
- หลังให้ยา ควรให้เด็กดื่มน้ำตามเพื่อป้องกันการสะสมของยาที่ผิวฟัน
- ผู้ป่วยที่มีปัญหาการทำงานของไต:
- หากมีภาวะไตวาย (Creatinine Clearance < 30 มล./นาที): ควรลดขนาดยาลง เช่น ใช้ 500 มก. ทุก 12 ชั่วโมง หรือตามคำแนะนำของแพทย์
- ผู้ป่วยที่ต้องฟอกไต: อาจต้องปรับขนาดยาและให้ยาหลังฟอกไต ควรปรึกษาแพทย์
- ระยะเวลาใช้ยา: ปกติ 5-14 วัน ขึ้นอยู่กับชนิดของการติดเชื้อ
ตารางสรุปขนาดยา Augmentin
กลุ่มผู้ใช้ |
ขนาดยา |
ความถี่ |
ผู้ใหญ่ |
625 มก. หรือ 1,000 มก. |
ทุก 8 หรือ 12 ชม. |
เด็ก (น้ำหนัก 10 กก.) |
200-400 มก./วัน |
วันละ 2-3 ครั้ง |
วิธีใช้
- รับประทานพร้อมอาหาร: เพื่อลดอาการระคายเคืองกระเพาะ เช่น คลื่นไส้หรือปวดท้อง ดื่มน้ำตามมาก ๆ เพื่อช่วยการดูดซึม
- ใช้ยาให้ตรงเวลา: เช่น หากกินวันละ 2 ครั้ง ให้กินทุก 12 ชั่วโมง (เช่น 8:00 น. และ 20:00 น.) เพื่อรักษาระดับยาในร่างกายให้สม่ำเสมอ
- กลืนยาเม็ดทั้งเม็ด: ห้ามบดหรือเคี้ยว เว้นแต่แพทย์สั่งให้ทำ
- ยาน้ำ (แบบผงสำหรับชง): เขย่าขวดให้เนื้อยาเข้ากันดีก่อนใช้ทุกครั้ง
- หากลืมกินยา: กินทันทีที่นึกได้ แต่ถ้าใกล้ถึงมื้อถัดไป ให้ข้ามไปและกินมื้อถัดไปตามปกติ อย่าเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เท่า
- ห้ามหยุดยาเอง: ถึงแม้อาการจะดีขึ้นแล้ว ต้องกินยาให้ครบตามที่แพทย์กำหนด เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำและเชื้อดื้อยา
- หากอาการไม่ดีขึ้น: หลังใช้ยาครบตามระยะเวลาที่แพทย์กำหนด ควรปรึกษาแพทย์
คำเตือนเกี่ยวกับขนาดยา:
ยา Augmentin ในขนาดต่าง ๆ มีปริมาณ Amoxicillin ต่างกัน แต่มีปริมาณ Clavulanic Acid เท่ากัน ไม่ควรใช้ยาขนาดต่ำกว่าทดแทนขนาดสูงกว่า (เช่น ใช้ 125 มก. 2 ช้อนชา แทน 250 มก. 1 ช้อนชา) เพราะจะทำให้ได้รับ Clavulanic Acid มากเกินไป ซึ่งอาจเพิ่มผลข้างเคียง
เคล็ดลับการใช้ยา Augmentin ในชีวิตประจำวัน
- ตั้งนาฬิกาปลุกเตือน: เพื่อให้กินยาตรงเวลา เช่น หากกินวันละ 2 ครั้ง ตั้งปลุกเวลา 8:00 น. และ 20:00 น.
- พกยาน้ำในกระเป๋าเย็น: หากต้องพกยาน้ำไปข้างนอก ควรใช้กระเป๋าเย็นเพื่อรักษาความเย็นของยา
- กินโปรไบโอติกส์ช่วยลดท้องเสีย: หากมีอาการท้องเสียเล็กน้อยจากการใช้ยา สามารถกินโยเกิร์ตหรือโปรไบโอติกส์เพื่อช่วยปรับสมดุลลำไส้ (แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อน)
4. ผลข้างเคียงที่อาจเกิดจากการใช้ยา Augmentin
การใช้ยา Augmentin อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงในบางคน ได้แก่:
ผลข้างเคียงที่พบบ่อย
- คลื่นไส้ อาเจียน
- ท้องเสีย (พบได้ถึง 10% ของผู้ใช้)
- ผื่นหรือคัน
วิธีจัดการ: หากท้องเสียไม่รุนแรง ให้ดื่มน้ำมาก ๆ และกินอาหารอ่อน ๆ เช่น ข้าวต้ม หากอาการรุนแรง (เช่น ถ่ายเหลวเกิน 5 ครั้ง/วัน) ให้พบแพทย์
ผลข้างเคียงที่พบได้น้อยแต่รุนแรง
- อาการแพ้รุนแรง (Anaphylaxis): หายใจลำบาก, หน้าบวม, แน่นหน้าอก, หายใจมีเสียงหวีด
- ตับอักเสบหรือดีซ่าน: ตัวเหลือง, ตาเหลือง, ปัสสาวะสีเข้ม (เมื่อหยุดยา อาการมักดีขึ้น)
- ลำไส้อักเสบจากเชื้อ Clostridium difficile (CDAD): คืออาการท้องเสียรุนแรงที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียในลำไส้ (อาจเกิดหลังใช้ยาไปแล้ว 2 เดือน) เกิดจากเชื้อ Clostridium difficile ที่สร้างสารพิษ Toxins A และ B
- ผื่นในผู้ป่วย Mononucleosis: ผู้ป่วยโรคโมโนนิวคลิโอสิส (หรือ "โรคจูบ" ซึ่งเป็นโรคติดเชื้อจากไวรัส มักพบในวัยรุ่น มีอาการ เช่น ไข้, เจ็บคอ, และต่อมน้ำเหลืองโต) อาจเกิดผื่นเมื่อใช้ยานี้
- การติดเชื้อรา: การใช้ยานานอาจทำให้เกิดเชื้อรา เช่น ฝ้าขาวในปาก หรือตกขาวในผู้หญิง
- การเปลี่ยนแปลงของการรับรส: อาจรู้สึกมีรสขมในปากขณะใช้ยา
- ฟันเปลี่ยนสี (ในเด็ก): ยาน้ำอาจทำให้ฟันมีสีเหลืองหรือน้ำตาล มักเกิดจากการสะสมของยาที่ผิวฟัน สามารถป้องกันได้โดยแปรงฟันหลังใช้ยา
หากเกิดอาการต่อไปนี้ ให้หยุดยาและพบแพทย์ทันที:
- หายใจหรือกลืนลำบาก, หายใจมีเสียงหวีด, แน่นหน้าอก, หน้าบวม
- ผื่นลมพิษรุนแรง, มีตุ่มน้ำพอง, ผื่นแพ้รุนแรง, คัน
- ท้องเสียรุนแรงหรือมีเลือดปน
- ตัวเหลือง, ตาเหลือง, ปัสสาวะสีเข้ม
- เวียนศีรษะหรือหมดสติ
- มีของเหลวคัดหลั่งจากช่องคลอด (อาจเกิดจากการติดเชื้อรา)
ภาพแสดงอาการแพ้ยา เช่น ผื่นแดง ซึ่งเป็นผลข้างเคียงของ Augmentin
5. ข้อควรระวังในการใช้ยา Augmentin
การใช้ยา Augmentin อาจมีความเสี่ยงในบางกลุ่ม ดังนั้นควรระวังดังนี้:
5.1 ผู้ที่มีประวัติแพ้ยา
- หากคุณเคยแพ้ยาในกลุ่มเพนิซิลลิน (เช่น Penicillin, Amoxicillin) หรือยาในกลุ่ม Cephalosporin อาจมีความเสี่ยงแพ้ Augmentin อาการแพ้ที่พบ เช่น ไข้, ผื่น, ผิวลอก
5.2 ผู้ที่มีโรคประจำตัว
- โรคไต: ผู้ที่มีภาวะไตวายหรือไตทำงานลดลง (เช่น ผู้ป่วยไตเรื้อรัง) ควรใช้ยาภายใต้การดูแลของแพทย์ เพราะยาอาจทำให้ไตทำงานหนักขึ้น
- โรคตับ: ผู้ที่มีประวัติตับอักเสบหรือตับวาย ควรระวัง เพราะ Augmentin อาจเพิ่มความเสี่ยงของผลข้างเคียงทางตับ
- โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง: เช่น โรคโครห์น (Crohn’s Disease) หรือลำไส้ใหญ่อักเสบชนิดเป็นแผล (Ulcerative Colitis) อาจเสี่ยงต่อการเกิดลำไส้อักเสบจากยา
5.3 การใช้ยาร่วมกับยาอื่น
- ยาคุมกำเนิด: Augmentin อาจลดประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิด ควรใช้การคุมกำเนิดวิธีอื่นร่วมด้วย (เช่น ถุงยางอนามัย)
- ยาต้านการแข็งตัวของเลือด (เช่น Warfarin): อาจเพิ่มความเสี่ยงเลือดออก ควรตรวจระดับการแข็งตัวของเลือดเป็นระยะ
- Allopurinol (ยารักษาโรคเก๊าท์): อาจเพิ่มความเสี่ยงเกิดผื่น
5.4 หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร
- Augmentin มีความปลอดภัยในระดับหนึ่งสำหรับหญิงตั้งครรภ์ (ตามข้อมูลจาก FDA) แต่ควรใช้เมื่อจำเป็นและอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ เนื่องจากอาจมีความเสี่ยงเล็กน้อยต่อทารกในครรภ์ (เช่น เพิ่มความเสี่ยงการเกิดผื่นในทารก)
- หญิงให้นมบุตรสามารถใช้ได้ แต่ยาอาจผ่านไปยังน้ำนม ทำให้ทารกท้องเสียหรือเกิดผื่น หากทารกมีอาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์
5.5 ผู้ที่มีประวัติโรคหรืออาการอื่น
- ผู้ป่วยโรคหอบหืด, ลมพิษ, โรคภูมิแพ้ หรือโมโนนิวคลิโอสิส (Mononucleosis) ควรระวังการใช้ยานี้
5.6 ผู้ป่วย Phenylketonuria (PKU):
- Augmentin บางสูตร (เช่น แบบเคี้ยวหรือยาน้ำ) อาจมีส่วนผสมของ Phenylalanine ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อผู้ป่วยที่มีภาวะ PKU ควรแจ้งแพทย์หากมีประวัติโรคนี้
6. สิ่งที่ควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยา
ก่อนใช้ Augmentin ควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับ:
- ประวัติแพ้ยา: โดยเฉพาะเพนิซิลลิน, Cephalosporins, Amoxicillin, Clavulanic Acid หรือยาอื่น ๆ
- โรคประจำตัว: เช่น โรคตับ, โรคไต, โรคลำไส้อักเสบ, โรคหอบหืด, ลมพิษ, หรือโมโนนิวคลิโอสิส
- การตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร: รวมถึงวางแผนตั้งครรภ์
- ยาที่ใช้อยู่: รวมถึงยาที่แพทย์สั่ง, ยาที่ซื้อมาเอง, วิตามิน, อาหารเสริม, และสมุนไพร
- ประวัติผลข้างเคียงจากยาปฏิชีวนะ: เช่น ท้องเสียรุนแรง
7. ขณะใช้ยา Augmentin ต้องเฝ้าระวังอะไรบ้าง?
- อาการแพ้ยา: เช่น ผื่นขึ้น, หายใจลำบาก, บวมที่ใบหน้า หากเกิดอาการให้หยุดยาและพบแพทย์ทันที
- อาการท้องเสีย: หากรุนแรงหรือมีเลือดปน อาจเป็นสัญญาณของลำไส้อักเสบ (CDAD)
- ปัญหาที่ตับ: หากมีอาการตัวเหลือง, ตาเหลือง, ปัสสาวะสีเข้ม อาจบ่งบอกถึงปัญหาที่ตับ
- การทำงานของไต: ผู้ที่มีโรคไตควรติดตามการทำงานของไตระหว่างใช้ยา
- การใช้ร่วมกับยาอื่น: เช่น Warfarin ควรตรวจระดับการแข็งตัวของเลือด
8. การเก็บรักษายา Augmentin
- ยาเม็ด: เก็บในที่แห้งและเย็น (15-25°C) ห่างจากแสงแดดและความชื้น
- ยาน้ำ (แบบผงสำหรับชง): หลังผสมแล้วเก็บในตู้เย็น (2-8°C) ใช้ให้หมดภายใน 7-10 วันตามที่ระบุบนฉลาก
- เก็บให้พ้นมือเด็ก
9. วิธีป้องกันปัญหาเชื้อดื้อยา
การใช้ยาปฏิชีวนะอย่าง Augmentin ไม่ถูกวิธีอาจทำให้เกิดปัญหาเชื้อดื้อยา ซึ่งเป็นปัญหาสาธารณสุขที่ร้ายแรง วิธีป้องกัน:
- ใช้ยาเฉพาะเมื่อแพทย์สั่งเท่านั้น
- กินยาให้ครบตามระยะเวลาที่กำหนด อย่าหยุดยาเอง
- อย่าใช้ยาที่เหลือจากครั้งก่อน หรือยาของผู้อื่น
- หลีกเลี่ยงการซื้อยาปฏิชีวนะมาใช้เองโดยไม่ปรึกษาแพทย์
สถานการณ์เชื้อดื้อยาในประเทศไทย
จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข (2568) พบว่าเชื้อดื้อยาในประเทศไทยเพิ่มสูงขึ้นทุกปี โดยเฉพาะเชื้อ Escherichia coli และ Staphylococcus aureus ซึ่งดื้อยาปฏิชีวนะมากถึง 30-50% การใช้ยา Augmentin อย่างไม่เหมาะสม เช่น หยุดยาเองเมื่ออาการดีขึ้น อาจทำให้เชื้อดื้อยาและรักษายากขึ้นในอนาคต
"การกินยา Augmentin ให้ครบตามที่แพทย์สั่งเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันการดื้อยาและให้การรักษาได้ผล"
ยา Augmentin เป็นยาที่มีประสิทธิภาพสูงในการรักษาการติดเชื้อจากแบคทีเรีย แต่การใช้ยาที่ไม่ถูกวิธีอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ ผมแนะนำให้ทุกคนใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร หากมีอาการผิดปกติขณะใช้ยา เช่น ผื่นแดงหรือท้องเสียรุนแรง ควรรีบพบแพทย์ทันที เพื่อให้คุณหายจากอาการป่วยอย่างปลอดภัยและมีสุขภาพที่ดีในระยะยาว
หากมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ยา Augmentin หรือยาอื่น ๆ สามารถติดต่อผมได้ที่ siamhealth.net หรือปรึกษาเภสัชกรที่ร้านยาใกล้บ้านครับ