ยารักษาวัณโรค Ethambutol
หากเกิดอาการดังต่อไปนี้ให้หยุดยาและปรึกษาแพทย์
- มีอาการแพ้ยาเช่น ปาก ริมฝีปากบวม หายใจลำบาก หายใจเสียงดัง มีผื่นลมพิษ
- มีการเปลี่ยนแปลงการมองเห็น เช่น ตามัว บอดสีแดงและเขียว
- มีผื่น
- ชามือชาเท้า ปลายมือปลายเท้า
- ซึม สับสน
- มีไข้
ข้อบ่งชี้ในการใช้ยารักษาวัณโรค Ethambutol
- ยานี้ใช้ขจัดเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของวัณโรค โดยใช้ร่วมกับยารักษาวัณโรคชนิดอื่น
ขนาดและวิธีการใช้ยารักษาวัณโรค Ethambutol
- สำหรับผู้ที่รักษาครั้งแรกจะให้ยา 15 มกต่อ กก วันละครั้ง
- สำหรับผู้ที่รักษาซ้ำจะให้ขนาด 25 มก ต่อ กก วันละครั้งเป็นเวลา 60 วันหลังจากนั้นลดขนาดลงเหลือ 15 มกต่อกก ระหว่างที่ให้ยาขนาด 25 มก ต่อ กกแนะนำให้มีการตรวจตา
- วัณโรคเป็นโรคติดต่อและเรื้อรัง ต้องรับประทานนานหลายเดือน อย่าหยุดยาเองโดยแพทย์ไม่ได้สั่ง
- ควรพบแพทย์ตามนัดเพื่อประเมินผลการรักษาและตรวจสายตาเป็นระยะ
- การที่ต้องใช้ยารักษาวัณโรคหลายชนิดร่วมกันเพื่อป้องกันการดื้อยาและเพื่อเริมฤทธิ์ในการรักษา
ผลข้างเคียงของยารักษาวัณโรค Ethambutol
- ประสาทตาอักเสบ ซึ่งเป็นอาการไม่พึงประสงค์ที่สำคัญ โดยยาอีแทมบูทอลมีผลทำให้สายตา แย่ลง และไม่สามารถแยกสีแดงกับสีเขียวได้ โอกาสพบความเป็นพิษต่อตาได้ร้อยละ 1.6 ใน ผู้ป่วยที่ได้รับยาขนาด 15 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อวัน ดังนั้นในผู้ป่วยที่ได้รับยา อีแทมบูทอลควรได้รับการตรวจสายตาเมื่อเริ่มใช้ยา และในขณะที่ได้รับยาทุก 2-4 สัปดาห์
- อาการข้างเคียงอื่นๆ ซึ่งพบไม่มาก ได้แก่ ผื่น คัน มีไข้ ปวดข้อ ไม่สบายท้อง ปวดศีรษะ วิงเวียน สับสน ประสาทหลอน และโอกาสเกิดอาการไม่พึงประสงค์จากยาอีแทมบูทอล พบได้มากขึ้นใน ผู้ป่วยสูงอายุ ผู้ป่วยที่ดื่มสุราจัด ผู้ป่วยเบาหวาน และผู้ป่วยที่มีภาวะการทำงานของไตไม่ดี
เมื่อเกิดอาการข้างเคียงควรทำอย่างไร
ไม่ค่อยพบอาการข้างเคียงจากยานี้ แต่ก็เกิดขึ้นได้ หากมีตาพร่า มองไม่เห็นสีเขียวและแดง สายตาเปลี่ยนกะทันหัน มีผื่นคัน ให้หยุดยาและพบแพทย์ทันที
อาการเบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน อาจพบในระยะแรกที่ใช้ยาเท่านั้นแล้วจะหายไปเอง หากมีอาการมากขึ้นควรพบแพทย์
ความปลอดภัยของยานี้ในสตรีมีครรภ์
สำหรับสตรีมีครรภ์ ยานี้จัดอยู่ในประเภท B