เชื้อดื้อยาเชื้อ
เชื้อดื้อยาหมายถึงเชื้อโรคที่พบมีการดื้อต่อยาที่เราใช้รักาษาเมื่อเราติดเชื้อดื้อยาจะทำให้ไม่มียาสำหรับรักษา
เชื้อที่เป็นสาเหตุ
เชื้อที่เป็นสาเหตุได้แก่เชื้อ Staphylococcus aureus ซึ่งสามารถพบได้ที่ผิวหนัง และเยื่อบุของร่างกาย เช่น เยื่อบุจมูก โดยที่ไม่ก่อให้เกิดโรค แต่หากกลไกป้องกันโรคของคนเราเสียหาย เช่นมีแผลที่ผิวหนัง หรือคนที่ฉีดยาเข้าเส้นโดยที่ไม่ได้ทำความสะอาด เชื้อจะเข้าสู่ร่างกาย และทำให้เกิดโรคได้หลายระบบ เช่น ฝี ปอดอักเสบ ผิวหนังอักเสบ เชื้อนี้อาจจะเข้ากระแสโลหิตทำให้เกิดโรคลิ้นหัวใจอักเสบ ซึ่งมักจะมีอาการุนแรง จนอาจจะทำให้คนติดเชื้อเสียชีวิต
เชื้อนี้ฬนธรรมชาติจะไม่ดื้อต่อยา ยาที่เราใช้ได้แก่ Methicillin หากดื้อต่อยาตัวนี้เราเรียก Methicillin resistan
โรคที่เกิดจากเชื้อ Staphyllococcus
เชื้อนี้สามารถทำให้เกิดโรคที่ไม่รุนแรงหรืออาจจะรุนแรงถึงกับเสียชีวิตตำแหน่งหรือโรคที่เกิดโรคได้แก่
- ผิวหนังอาจจะทำให้เกิดผิวหนังอักเสบ ฝี
- ระบบทางเดินอาหารทำให้เกิดอาหารเป็นพิษ โดยรับประทานอาหารที่ไม่ได้เข้าตู้เย็นเกิน 2 ชั่วโมงและไม่ได้ทำให้สุก
- ปอด อาจจะเกิดปอดบวม หนองในช่องหุ้มปอด
- หัวใจ สำหรับผู้ที่ฉีดยาเข้าเส้นอาจจะทำให้เกิดลิ้นหัวใจอักเสบ
- ข้อ ข้อติดเชื้อ
- เชื้อเข้ากระแสโลหิตไปทั่วร่างกายซึ่งอัตราการเสียชีวิตสูง
การรักษาการติดเชื้อ Staphyllococcus
เชื้อที่พบในธรรมชาติมักจะไม่ดื้อยา เราสามารถใช้ยาได้หลายชนิด เช่นกลุ่ม penicillin erythromycinซึ่งผลการรักษาจะขึ้นกับความรุนแรงของการติดเชื้อ
การติดเชื้อ Methicillin resistant Staphyllococcus aureus
เชื้อตัวนี้มักจะพบในโรงพยาบาลซึ่งเกิดจากตัวเชื้อมีการพัฒนาสายพันธ์ และเกิดการดื้ อยาทำให้การรักษาลำบากยิ่งขึ้นเพราะลำพังตัวเชื้อที่ไม่ดื้อยาอัตราการเสียชีวิตก็สูงอยู่แล้ว การรักษาต้องเลือกยาที่ใช้ได้ผลซึ่งมีราคาแพง
ใครที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ MRSA
เนื่องจากเชื้อนี้มักจะติดในโรงพยาบาล ผู้ที่ติดเชื้อมักจะได้จากในโรงพยาบาลโดยมากมักเป็นผู้ป่วยที่
- นอน ICU
- ผู้ป่วยที่ผ่าตัด
- ผู้ที่ผ่าตัดทางโรคกระดูก
- ผู้ที่ต้องล้างไต
- ผู้ที่ติดยาเสพติด
เราจะทราบอย่างไรว่าติดเชื้อนี้
หากมีไข้แพทย์จะเจาะเลือดหรือนำสารคัดหลังที่สงสัยว่าจะเป็นแหล่งติดเชื้อนั้นไปเพาะเชื้อ และหาความไวของเชื้อโรคต่อยา หากพบว่าดื้อต่อMethicillin จึงจะเรียกว่า MRSA
หากท่านติดเชื้อนี้จะส่งผลอย่างไรกับท่าน
เนื่องจากเชื้อนี้จะดื้อต่อยาหลายชนิด ทางโรงพยาบาลจะต้องพยายามป้องกันมิให้เชื้อนี้แพร่ไปสู่คนอื่นหรือออกนอกโรงพยาบาล
- แพทย์จะแยกท่านออกจากผู้ป่วยอื่น
- จะติดป้ายหน้าห้องว่ามีการติดเชื้อนี้เพื่อเตือนให้เจ้าหน้าที่และคนที่มาเยี่ยมต้องระมัดระวังการแพร่กระจายของเชื้อโรค
- ผู้ที่เข้ามาดูแลจะต้องสวมถุงมือ หน้ากากอนามัย ชุดคลุม ล้างมือทำความสะอาดทั้งก่อนและหลังรักษา
เมื่อท่านกลับบ้านโรคนี้จะติดต่อคนอื่นหรือไม่
โดยทั่วไปมักจะไม่ติดต่อคนอื่น แต่ต้องระวังผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน ผู้ที่มีแผลที่ผิวหนังซึ่งอาจจะติดเชื้อได้ง่าย
การป้องการติดเชื้อดื้อยาสำหรับผู้ใหญ่
- ถามแพทย์ประจำตัวของท่านว่าจำเป็นต้องฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคบางชนิด เช่นวัคซีนไข้หวัดใหญ่ วัคซีนป้องกันปอดบวมเพื่อที่จะลดการเจ็บป่วยทำให้ลดการนอนโรงพยาบาล
- เมื่อเข้าโรงพยาบาลต้องถามแพทย์ถึงมาตรการป้องกันโรงติดเชื้อ และแจ้งต่อแพทย์ว่ากังวลเรื่องนี้มาก
- แน่ใจว่าแพทย์และพยาบาลล้างมือก่อนที่จะไปตรวจท่าน
- ให้ข้อมูลการเจ็บป่วย รวมทั้งการใช้ยาทุกชนิดแก่แพทย์เพื่อที่แพทย์จะใช้เป็นข้อมูลในการพิจารณาให้ยาอย่างเหมาะสม
- หากคุณรับประทานยาปฏิชีวนะ ควรจะรับประทานยาจนครบตามแพทย์สั่ง
- ติดตามอาการต่างๆ เช่นไข้หนาวสั่น หรือมีหนองไหลหากพบให้แจ้งแพทย์
การป้องการติดเชื้อสำหรับผู้ป่วยล้างไต
- ถามแพทย์ประจำตัวของท่านว่าจำเป็นต้องฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคบางชนิด เช่นวัคซีนไข้หวัดใหญ่ วัคซีนป้องกันปอดบวมเพื่อที่จะลดการเจ็บป่วยทำให้ลดการนอนโรงพยาบาล
- เมื่อเข้าโรงพยาบาลต้องถามแพทย์ถึงมาตรการป้องกันโรงติดเชื้อ และแจ้งต่อแพทย์ว่ากังวลเรื่องนี้มาก
- แน่ใจว่าแพทย์และพยาบาลล้างมือก่อนที่จะไปตรวจท่าน
- ล้างมือด้วยสบู่หลังจากเข้าห้องน้ำ และฟอกมือก่อนที่จะสายต่างๆ
- อาบน้ำและฟอกสบู่ก่อนที่จะไปฟอกเลือด
- แจ้งแพทย์เรื่องยาที่รับประทานพร้อมทั้งคำแนะนำเรื่องการรับประทานยาก่อนและหลังการฟอกเลือด
- ถามข้อมูลว่าเมื่อไรจะต้องสวมถุงมือ
- เรียนรู้วิธีดูแลสายต่างๆที่ติดอยู่ตัวท่าน
- เรียนรู้วิธีการแก้ปัญหาเรื่องปัญหาต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้น เช่นสายหลวม
- เฝ้าติดตามอาการไข้ หนาวสั่น มีหนองไหล
- อย่ารับประทานยาปฏิชีวนะโดยที่ไม่จำเป็น
- เมื่อรับยาปฏิชีวนะให้รับประทานจนหมด
การป้องกันการติดเชื้อระหว่างผ่าตัด
- ถามแพทย์ประจำตัวของท่านว่าจำเป็นต้องฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคบางชนิด เช่นวัคซีนไข้หวัดใหญ่ วัคซีนป้องกันปอดบวมเพื่อที่จะลดการเจ็บป่วยทำให้ลดการนอนโรงพยาบาล
- เมื่อเข้าโรงพยาบาลต้องถามแพทย์ถึงมาตรการป้องกันโรงติดเชื้อ และแจ้งต่อแพทย์ว่ากังวลเรื่องนี้มาก
- แน่ใจว่าแพทย์และพยาบาลล้างมือก่อนที่จะไปตรวจท่าน
- หากคุณเป็นโรคเบาหวานต้องปรึกษาแพทย์ว่าจะต้องควบคุมระดับน้ำตาลเท่าใด และคุมอย่างไร
- หากคุณอ้วนต้องลดน้ำหนักลง เพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ /li>
- ให้หยุดสูบบุหรี่ เพราะการสูบบุหรี่จะทำให้เกิดการติดเชื้อที่ปอดได้ง่าย
- จ้งแพทย์เรื่องยาที่รับประทานอยู่ทั้งหมด
การปฏิบัติขณะอยู่ในโรงพยาบาล
- ฟอกมือทุกครั้งที่เข้าห้องน้ำ
- แจ้งพยาบาลทุกครั้งที่ชุดหรือที่นอนของท่านปนเปื้อนอุจาระ
- แจ้งพยาบาลและแพทย์ให้ล้างมือก่อนที่จะตรวจท่าน
- ตำแหน่งที่ให้น้ำเกลือต้องแห้งอยู่ตลอดเวลา หากเปียกน้ำต้องแจ้งพยาบาลให้ทราบ
- หากผ้าปิดแผลเปียกต้องแจ้งพยาบาลให้ทราบ
- หากสายต่างๆ เช่นสายน้ำเกลือ สายสวนปัสสาวะ ฯลฯหลุดหรือหลวมต้องแจ้งพยาบาลทันที
- ห้ามญาติมาเยี่ยมหากกำลังเจ็บป่วย
- ทุกครั้งที่รับประทานยาต้องตรวจดูทุกครั้ง หากไม่ทราบว่ารับเพื่ออะไรต้องถามเภสัชกร
การปฏิบัติเมื่อออกจากโรงพยาบาล
- ถามเรื่องยาที่จะต้องรับประทานเมื่อออกจากโรงพยาบาล
- ให้เภสัชอธิบายวิธีการใช้ยา
- เฝ้าติดตามอาการไขหนาวสั่น หนองไหล